รัฐสภา 9 พ.ย.-สนช.เห็นชอบให้รัฐบาลรับร่างกฎหมายยาเสพติดให้โทษเพื่อปลดล็อกกัญชา ไปพิจารณา 30 วัน ก่อนส่งกลับมาให้ สนช. พิจารณาตามวาระ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (9 พ.ย.) ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ที่สมาชิก สนช. 44 คนเสนอ นำโดย นายสมชาย แสวงการ สนช. ซึ่งระบุว่า ปัจจุบันมีการลักลอบนำกัญชามาใช้ จึงอยากให้มีหน่วยงานมารับผิดชอบชัดเจน ทั้งนี้สามารถมาปรับปรุงรายละเอียดในชั้นกรรมาธิการให้เป็นประโยชน์สูงสุดได้ โดยใช้เวลาในการพิจารณารอบคอบร่วมกัน ซึ่งเชื่อว่าจะทันตามกรอบเวลาในการทำหน้าที่ของรัฐบาล
สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 กำหนดให้สามารถขออนุญาต ผลิต นำเข้าหรือส่งออก ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ซึ่งประกอบด้วย กัญชา และกระท่อม เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์สามารถนำไปใช้ในการรักษาโรคเฉพาะตัวได้ เช่นเดียวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ฝิ่น โดยให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สามารถกำหนดพื้นที่สำหรับทดลองเพาะปลูกกัญชา และเสพกัญชา เพื่อการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ในปริมาณที่กำหนดโดยไม่ถือว่ามีความผิดกฎหมาย ซึ่งการกำหนดพื้นที่ดังกล่าวจะต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา มีมาตรการตรวจสอบควบคุม
สำหรับผู้ที่จะสามารถอนุญาตครอบครองกัญชาได้นั้น ประกอบด้วย กระทรวง องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น สภากาชาดไทย องค์กรเภสัชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์สาขาต่าง ๆ ทั้งทันตกรรม สัตวแพทย์ แพทย์แผนไทย เป็นต้น โดยผู้ขออนุญาตจะต้องไม่เคยต้องโทษตามกฎหมายยาเสพติดมาก่อน และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้พิจารณาอนุญาตตามความเห็นของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ
ขณะที่สมาชิกหลายคนอภิปรายสนับสนุน โดย นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช. กล่าวว่า การเสนอแก้ไขดังกล่าว ใช้เพื่อการแพทย์ ไม่ใช่ทางสันทนาการ และต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่า การปลดล็อกกัญชา ทำในเขตที่ประกาศโดย ป.ป.ส. ให้ใช้ในพื้นที่ที่ครอบครองวิจัยและพัฒนาได้เท่านั้น ไม่ได้ครอบคุลมทุกพื้นที่ เพราะต้องการควบคุม เนื่องจากไม่ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนปลูกได้อย่างเสรี หากมีการปลดล็อก ก็อาจจะต้องมีกฎหมายเฉพาะขึ้นมา
นายสนิท อักษรแก้ว สมาชิก สนช. กล่าวว่า ในอนาคตอาจจะใช้ประโยชน์จากกัญชาได้หลายเรื่อง อย่างน้อยที่สุด คือ น้ำมันกัญชา สามารถรักษาได้หลายโรค ถ้าเปิดโอกาสให้มีการวิจัย ประเทศไทยมีศักยภาพ ทั้งเรื่องบุคลากรนักวิจัยที่มีชื่อเสียง และเครื่องมือ วิธีการต่าง ๆ ในการสกัด หลายสถาบันพร้อมทำงานวิจัยหากเปิดโอกาส และหากงานวิจัยต่าง ๆ เป็นที่ยอมรับ มีการควบคุมที่ดี ประเทศไทย สภาพภูมิประเทศ อากาศ ดิน เหมาะสมในการปลูกกัญชา
ที่ประชุม สนช. มีมติเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อรัฐบาล เพื่อให้พิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ปลดล็อกให้กัญชา สามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้ โดย นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นตัวแทนรัฐบาล รับร่างไป พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลจะนำร่างกฎหมายที่ สนช. เสนอ วันนี้ (9พ.ย.) ไปพิจารณาภายใน 30 วัน ก่อนเสนอเป็นร่างกฎหมาย กลับมายัง สนช.พิจารณารับหลักการในวาระที่ 1 ตามกระบวนการต่อไป
ทั้งนี้ในร่างกฎหมายที่ สนช. เสนอ ได้แนบผลการรับฟังความเห็นประชาชนตามมาตรา 77 ผ่านเว็บไซต์ของ สนช. ระหว่างวันที่ 1- 15 ตุลาคม 2561 มีผู้เห็นด้วย 16,288 คน ไม่เห็นด้วยเพียง 138 คน และ 5 คนไม่แสดงความคิดเห็น และข้อสรุปจากเวทีสัมมนาที่ สนช.จัดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ให้การสนับสนุน.-สำนักข่าวไทย