ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 8 พ.ย.-ม.ธรรมศาสตร์จัดเสวนา ประเทศไม่ตรงปก “วัฒนา-ภราดร” ชี้ไทยเคารพตัวบุคคลมากกว่าหลักการ ยอมเดิมตามผู้มีอำนาจ ด้าน “อลงกรณ์” จี้ซีพี ห่วงทุนสามานย์ ครอบงำการเมือง ขณะที่ “ปิยบุตร” ชวนคิดประเทศไทยผิดรูป เพราะนักการเมืองหรือทหาร
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานเสวนา “เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน” ในหัวข้อ “ประเทศไม่ตรงปก” ซึ่งมีตัวแทนจาก 4 พรรคการเมือง ประกอบด้วย นายวัฒนา เมืองสุข จากพรรคเพื่อไทย นายอลงกรณ์ พลบุตร จากพรรคประชาธิปัตย์ นายภราดร ปริศนานันทกุล จากพรรคชาติไทยพัฒนา และนายปิยบุตร แสงกนกกุล จากพรรคอนาคตใหม่ ร่วมงานเสวนา
โดยนายวัฒนา กล่าวว่า ไม่แปลกใจที่คนไทยตั้งแต่อดีตไม่เคยตรงปก ซึ่งส่งผลถึงการเมือง ดังนั้นสาเหตุที่คนไทยไม่ตรงปก เนื่องจากถูกสอนให้อยู่เป็น รู้รักษาตัวรอด สังคมไทยจึงเป็นสังคมศรีธนญชัยเรื่อยมา เป็นสังคมที่ไม่มีแก่นสาร ไม่มีหลักการ จะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำเพื่อเอาใจผู้มีอำนาจ คนไทยจึงถูกสอนให้เดินตามผู้มีอำนาจ และพยายามหาเหตุผลมาสนับสนุนความไม่ดีของตนเองมาเสมอ สังคมไทยไม่สอนให้คนเคารพหลักการ ตัวอย่างที่เกิดขึ้น คือ วิธีพิจารณาคดีความอาญาบางประเภทที่กำหนดให้เจ้าตัวต้องไปแสดงตัว ทั้งที่ให้ใครไปยื่นงานธุรการก็ได้ แต่ในขั้นตอนการพิจารณาคดีอาญาที่สำคัญบางคดี กลับสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ ตรงข้ามกับนานาชาติ ที่ให้ความสำคัญกับหลักการ
“ทุกวันนี้ ต้องสอนให้คนเคารพหลักการ ปลูกฝังให้คนไทยพูดถึงแต่คำว่า คนดี ซึ่งมาตรวัดคำว่า คนดีของแต่ละคนไม่เท่ากัน ในทรรศนะของผม คนดี คือคนที่เดินตามกติกา ทุกวันนี้ต้องสร้างระบบ ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพราะสูญเสียหลักการไปมากแล้ว เช่น การที่ผู้บัญชาการทหารบกออกมาระบุว่า หากประเทศเดินไปข้างหน้าไม่ได้ ก็จำเป็นต้องยึดอำนาจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยไม่ได้สอนให้ยึดหลักการ แม้แต่ในองค์กรในกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ถือเป็นการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เคารพหลักการมากกว่าตัวบุคคล ต้องรักษาหลักการที่ดีที่งามเอาไว้ เชื่อว่าไม่มีคนดีในโลกนี้ จึงขอให้สร้างหลักการที่ดีให้คนเดินตามหลักการดังกล่าว” นายวัฒนา กล่าว
ด้านนายอลงกรณ์ กล่าวว่า ปัญหาประเทศไม่ตรงปก เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งประเทศไทยวนอยู่ในวงจรอุบาทว์ที่มีการรัฐประหารถึง 13 ครั้ง รัฐธรรมนูญทั้ง 20 ฉบับ เมื่ออำนาจทางการเมืองถูกผูกขาด ประเทศไทยติดหล่มการคอร์รัปชัน ทำให้ประเทศเป็นลักษณะรวยกระจุก จนกระจาย ส่งผลทำให้การพัฒนาที่ไม่สมดุล อาทิ ภาคอีสานที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยากจน ซึ่งประเทศยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของนายทุนที่ผูกขาดทุกสาขาธุรกิจ
“ผมขอยกตัวอย่าง ซีพี ที่กฎหมายแข่งขันทางการค้าเพื่อป้องกันการผูกขาด ไม่สามารถบังคับใช้ได้มาแล้วกว่า 19 ปี สะท้อนให้เห็นถึงการเมืองรับทุนสามานย์ ซึ่งประชาชนต้องใช้สิทธิเสรีภาพเลือกผู้นำให้เป็น” นายอลงกรณ์ กล่าว
ขณะที่นายภราดร กล่าวว่า เห็นด้วยกับนายวัฒนา ที่ต้องเริ่มต้นที่โครงสร้างของประเทศ เพราะคนถูกสอนมาเสมอว่า ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยมา 86 ปี แต่ต้องถามว่า ที่ผ่านมา เป็นประชาธิปไตยจริงหรือไม่ ตนเชื่อว่าทุกคนตอบได้ว่าเรามีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นอย่างเสรีภาพหรือไม่ ซึ่งรัฐธรรมนูญทั้ง 20 ฉบับ ตนมองว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นฉบับเดียวที่เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน ซึ่งเป็นโครงสร้างที่บิดเบี้ยวของสังคมไทย ส่งผลให้ประเทศไม่ตรงปก ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างที่ทุกคนคาดหวัง
“สังคมไทยไม่เคยเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดวงจรอุบาทว์ที่วนอยู่ในห้วงมีการรัฐประหาร เพราะสังคมไทยไม่มีการเรียนรู้ คนไทยถูกสอนว่า ควรลืม ควรให้อภัย แต่การให้อภัยจะต้องเกิดขึ้นบนพื้นฐานของการเรียนรู้ เช่น การชุมนุมแต่ละครั้ง ทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดง สังคมไทยควรถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พยายามให้สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นครูให้ได้ และต้องไม่เดินย้อนกลับไปสู่วงจรนั้น ๆ อีกแล้ว ถึงเวลาที่ทั้งสังคมเคลื่อนไปพร้อมกัน และบอกผู้มีอำนาจว่า ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น ขอยืนยันว่าไม่ขัดข้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แต่ที่มาของยุทธศาสตร์ชาติ ต้องเป็นของประชาชน เพราะว่าผู้ที่ร่างยุทธศาสตร์ชาติมีอายุเฉลี่ย 60 ปี อีก 20 ปีก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ ขณะเดียวกัน เชื่อว่ารัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะอยู่ได้ไม่นาน การจะขับเคลื่อนประเทศหลังการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว จะเป็นเรื่องยาก” นายภราดร กล่าว
ด้านนายปิยบุตร กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นผลพวงมาจากการรัฐประหาร ทั้งที่รัฐธรรมนูญต้องเป็นของประชาชนที่ก่อตั้งร่วมกัน ขณะที่หัวหน้า คสช. ระบุเสมอว่า ต้องเคารพกฎหมาย แต่เมื่อย้อนกลับไปดูจะพบว่าเป็นผู้ละเมิดกฎหมายคนที่หนึ่ง
“เริ่มตั้งแต่การฉีกรัฐธรรมนูญ และออกกฎหมายมากมายเพื่อให้คนอื่นเคารพกฎหมาย ด้านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่โหวตแต่ละครั้ง ไม่พบฝ่ายค้านในสภาฯ ขอชวนผู้ร่วมเสวนาฉุกคิดว่าวงจรอุบาทว์เกิดจากนักการเมืองที่จากการเลือกตั้ง หรือเริ่มต้นจากการแทรกแซงของทหารกันแน่ หรือจริง ๆ แล้วประเทศไทยแก้ปัญหาผิดวิธีด้วยการยึดอำนาจ ทั้งที่วิธีการแก้ปัญหาต้องเพิ่มประชาธิปไตยที่เข้มขึ้น เพิ่มอำนาจประชาชนให้มีส่วนร่วม ไม่ใช่ให้ทหารเข้ามาแก้ไขปัญหา” นายปิยบุตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย