วอชิงตัน 5 พ.ย.- ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันจะตัดสินใจในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐว่า เงินทุ่มหาเสียง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 164,907 ล้านบาท) ของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตจะมีอิทธิพลต่อการลงคะแนนเลือกตั้งกลางสมัยอย่างไร ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนของแต่ละพรรคเดิมพันหมดหน้าตัก
มีสิ่งบ่งชี้หลายอย่างว่า พรรคเดโมแครตอาจแย่งเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภามาจากพรรครีพับลิกันได้ แต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2559 ที่พิสูจน์แล้วว่าโพลล์ทุกสำนักล้วนผิดหมดทำให้ทุกอย่างล้วนไม่แน่นอน การเลือกตั้งพรุ่งนี้เป็นการชิงที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร 435 ที่นั่ง วุฒิสภา 35 ที่นั่งหรือหนึ่งในสาม ผู้ว่าการรัฐและดินแดนต่าง ๆ 39 คน และการเลือกตั้งท้องถิ่นอีกมาก หากเดโมแครตครองสภาผู้แทนราษฎรก็จะกระทบต่อการผ่านกฎหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในอีกสองปีที่เหลืออยู่ และอาจมีอำนาจสอบสวนประธานาธิบดีทั้งเรื่องส่วนตัวและการบริหารประเทศ
Emily’s List กลุ่มที่ต้องการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยการช่วยให้สตรีเดโมแครตที่สนับสนุนสิทธิการทำแท้งได้รับเลือกตั้ง ทุ่มเงินสนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้เกือบ 60 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 1,978 ล้านบาท) มากที่สุดเท่าที่เคยให้มา นายทอม สเตเยอร์ ผู้จัดการกองทุนเก็งกำไรและนักเคลื่อนไหวอิสระทุ่มเงินร่วม 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,956 ล้านบาท) รณรงค์คนหนุ่มสาวออกไปใช้สิทธิ และออกโฆษณาทั่วประเทศเรียกร้องให้มีการอภิปรายถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ เขาประกาศตัวว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเดโมแครต แต่เป็นเดโมแครตเต็มตัว ขณะที่กลุ่ม Women for Trump เตือนว่า การเสียเสียงข้างมากในสภาใดสภาหนึ่งก็จะเป็นหายนะได้ โดยเฉพาะสภาผู้แทนราษฎรเพราะจะทำให้ประธานาธิบดีทำงานได้ไม่เต็มที่ และจะไม่ได้รับเลือกตั้งอีกสมัย.- สำนักข่าวไทย