เซี่ยงไฮ้ 5 พ.ย. – รองนายกรัฐมนตรีหารือสายการบินต้นทุนต่ำยักษ์ใหญ่ของจีน งัดแผนดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับไทย ทั้งให้สิทธิพิเศษหลุมจอด เสนอ ครม.พ.ย.นี้ ทั้งยกเว้นวีซ่า จัดโปรโมชั่นราคาพิเศษโค้งสุดท้ายปลายปี
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หารือกับผู้บริหารบริษัท สปริงแอร์ไลน์ สายการบินต้นทุนต่ำรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีน โดยสายการบินสปริงแอร์ไลน์พร้อมเข้ามาร่วมมือกับไทยหาช่องทางดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนจากเมืองใหญ่เข้ามาเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น หลังจากเจอกับเหตุการณ์กระทบการท่องเที่ยวหลายด้าน รัฐบาลจึงสนับสนุนหลายหน่วยงาน ทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ร่วมกันออกแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวโค้งสุดท้ายปลายปี เพื่อร่วมกับกระทรวงการคลังและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อเสนอแพ็คเก็จใหญ่ให้ ครม.พิจารณาเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ด้านบริษัท สปริง แอร์ไลน์ จำกัด มีเส้นทางการบินในจีนและต่างประเทศ 194 เส้นทาง มีเที่ยวบินมาไทยประมาณ 1,200 เที่ยวต่อเดือน โดยในประเทศไทยมีเส้นทางหลัก คือ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี และกระบี่ แต่ละปีนำคนจีนมาไทยมากกว่าล้านคน หรือประมาณ 1ใน 5 ของนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมดที่เดินทางมาไทย ระหว่างการหารือได้ติดต่อให้ ททท.และ ทอท.และหลายหน่วยงาน เพื่อเร่งจัดแผนสายการบินสปริงแอร์ไลน์ โดยพร้อมพิจารณาลดค่าธรรมเนียมการลงจอดอากาศยาน (แลนด์ดิ้ง) และค่าธรรมเนียมหลุมจอด หรือขยายเวลาเข้าจอดแบบยืดหยุ่นได้ให้เหมาะสม และให้รัฐบาลช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการขยายจำนวนเที่ยวบินเพิ่มเติม โดยเฉพาะเส้นทางลงจังหวัดเชียงใหม่
ทางสายการบินสปริงแอร์แจ้งมาว่าต้องการร่วมกับการบินไทยส่งเสริมเส้นทางการบินระหว่างกัน จึงได้มอบหมายให้ทางผู้บริหารสายการบินหารือกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานคณะกรรมการ การบินไทย เพื่อเข้ามาร่วมมือทำเส้นทางการบินให้สอดคล้องกัน โดยเฉพาะการจัดเส้นทางให้นักท่องเที่ยวจากจีนได้มีโอกาสลองไปเที่ยวเมืองรองเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล จึงเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานรีบสรุปมาตรการท่องเที่ยวออกมาพร้อมกัน ทั้งเรื่องการยกเว้นการตรวจลงตรา ณ สนามบิน หรือมาตรการยกเว้นวีซ่า On arrival ภายเดือนในพฤศจิกายน เพื่อเสนอ ครม.พิจารณา หวังส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วง 2 เดือนสุดท้าย รัฐบาลได้แสดงความเสียใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจังหวัดภูเก็ต และทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง จึงมีความไม่เข้าใจบางอย่าง และขอให้ช่วยเคลียร์ให้เกิดความเข้าใจ และได้ขอให้สายการบินเข้ามาร่วมมือกันพัฒนาแพ็คเก็จด้านการท่องเที่ยว หากสายการบินนำนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยมากขึ้นจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมจากเดิมที่ได้รับ
ขณะเดียวกันยังหารือกับผู้บริหารบริษัท เจียงสู เวิลด์กรุ๊ป ผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตร เช่น รถแทร็คเตอร์ รถเกี่ยวข้าวอัตโนมัติ ได้รับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และสนใจขยายการลงทุนในไทยเพิ่มเติม โดยจะตั้งโรงงานผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตรมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท และตั้งใจจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกสินค้าไปยังภูมิภาคอาเซียน และการขยายตลาดในไทยเองด้วย โดยพร้อมยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนกับบีโอไอโดยเร็วที่สุด. – สำนักข่าวไทย