นนทบุรี 22 ต.ค. – พาณิชย์เผยปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เริ่มส่งผลกระทบต่อการค้าของไทย โดยเดือนกันยายนที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกติดลบร้อยละ 5.2 ครั้งแรกในรอบ 19 เดือน
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ได้รายงานสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของไทย หรือการส่งออกเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่า ติดลบครั้งแรกในรอบ 19 เดือน โดยติดลบร้อยละ 5.2 หรือมีมูลค่า 20,699 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลมาจากสงครามการค้าเริ่มมีผลต่อสินค้าส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดจีนลดลงร้อยละ 14.1 และตลาดสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 1.2 และการส่งออกทองคำหดตัวลงหลังจากฐานการส่งออกปีก่อนหน้าอยู่ในระดับสูง รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจตลาดใหม่ของไทย ทั้งออสเตรเลีย และรัสเซีย ทำให้มีการนำเข้าจากทุกประเทศลดลง แต่การส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกของปียังขยายตัวได้ร้อยละ 8.13 คิดเป็นมูลค่าการส่งออกที่ 189,730 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ การนำเข้าในช่วงเดือนกันยายนขยายตัว ร้อยละ 9.9 คิดเป็นมูลค่า 20,212 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าในช่วง 9 เดือนแรกของปีขยายตัว ร้อยละ 15.21 คิดเป็นมูลค่า 186,891 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เดือนกันยายนไทยได้ดุลการค้า 487 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดุลการค้า 9 เดือนไทยยังเกินดุลการค้า 2,839 ล้านดอลลาร์ แต่การส่งออกในช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มต้องเผชิญกับปัจจัยการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้า แต่ยังมั่นใจว่าการส่งออกทั้งปียังเป็นไปตามเป้าหมายที่ร้อยละ 8 ได้
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยังเชื่อมั่นว่า 3 เดือนที่เหลือจะมีการผลักดันการส่งออกไปหลายตลาดมาทดแทนการส่งออกไปตลาดจีนที่ลดลงได้ ทั้งตลาด CLMV ตลาดยุโรป ที่ยังมีความต้องการสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งคาดว่าปีนี้ ไทยจะผลักดันสินค้าเกษตรและอาหารได้เกินกว่า 20,000 ล้านดอล์สหรัฐ ดังนั้น เฉลี่ยการส่งออกแต่ละเดือนหลังจากนี้ น่าจะเกินเดือนละ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้การส่งออกของไทยปีนี้ได้ตามเป้าหมายแน่นอน.-สำนักข่าวไทย