ผู้ว่าฯ กำแพงเพชร เยี่ยมผู้บาดเจ็บ เหตุรถตู้ชนต้นไม้ไฟลุกท่วม

กำแพงเพชร 21 ต.ค. – ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุรถตู้แรงงานเมียนมา ชนต้นไม้จนไฟไหม้ มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ บาดเจ็บ 6 คน ขณะที่ผลการตรวจสอบสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด





นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมคณะ เยี่ยมผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร พาชาวเมียนมา ซึ่งเดินทางจากเพชรบุรีมุ่งหน้าอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก แต่เสียหลักตกถนน และพุ่งชนอัดต้นไม้จนเกิดไฟลุกไหม้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 9 ศพ บาดเจ็บอีก 6 คน พร้อมระบุว่า เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด แต่เบื้องต้นพบว่า รถได้ลื่นไถลลงข้างทาง ก่อนชนต้นไม้ ประกอบกับเป็นรถใช้แก๊สจึงมีไฟลุกไหม้ ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 6 คนพบว่ามีอาการสาหัส 2 คน ส่วนที่เหลือบาดเจ็บปานกลาง คาดว่า 4-5 วันน่าจะกลับบ้านได้ ส่วนการเยียวยาเบื้องต้น ทราบว่า รถตู้คันนี้มีประกันภัยภาคสมัครใจที่ทำไว้กับเอกชน และ พ.ร.บ.ภาคบังคับ ซึ่งทราบว่าจะมีการเยียวยารายละ 300,000 บาทตามกรมธรรม์


สำหรับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว 9 ศพ พบว่าเป็นชาวเมียนมาทั้งหมด ทราบชื่อที่ชัดเจนแล้ว 4 ศพ ส่วนที่เหลืออีก 5 ศพกำลังพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เนื่องจากพบว่าถูกไฟไหม้เกรียมทั้งร่าง เตรียมส่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ตรวจสอบในวันนี้

ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีก 6 คน แบ่งเป็นชาวเมียนมา 5 คน โดยมีอายุตั้งแต่ 19-33 ปี ส่วนใหญ่อาการฟกช้ำ, มีบาดแผลถูกไฟไหม้ตามลำตัว แขน และใบหน้า นำส่งโรงพยาบาลคลองขลุง 4 คน ส่วนอีก 2 คน ซึ่งรวมถึงคนขับรถชาวไทย คือ นายคมวัฎ แซ่ฟู อายุ 55 ปี ถูกนำส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชร เนื่องจากมีอาการสาหัส ถูกไฟไหม้ที่ลำตัวเป็นแผลฉกรรจ์ และที่สำคัญคือ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา

ด้านขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า รถตู้คันประสบเหตุได้มีการตัดสัญญาณ GPS ออกไป จึงทำให้ไม่ทราบข้อมูลเส้นทางวิ่ง ความเร็ว และจำนวนผู้โดยสาร เบื้องต้นทราบว่าเป็นรถเช่าเหมาไม่มีบริษัทสังกัด เดินทางจากเพชรบุรีพาแรงงานเมียนมาไปต่อวีซ่าที่แม่สอด หลังจากนี้กำลังขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะการตัดสัญญาณ GPS เพื่อให้สามารถวิ่งได้เร็วกว่ากฎหมายที่กำหนดถือว่ามีความผิด

โดยภายหลังจากที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บเสร็จสิ้น คณะของผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ โดยยังพบเศษซากชิ้นส่วนต่างๆ ร่องรอยต้นไม้ที่ถูกชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุที่แน่ชัดแต่อย่างใด .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์