13 ก.ย. – บานาน่า โซไซตี้ ได้นำนวัตกรรมมาพัฒนามูลค่าเพิ่มกล้วยจากเคลือบช็อกโกแลก ชาเชียว ส่งห้างสรรพสินค้า ดิวตี้ฟรี และส่งออก ผ่านการค้ำประกันให้มีเงินทุนมุนเวียนจาก บสย.
กว่าจะมาเป็น บานาน่า โซไซตี้ ได้ในทุกวันนี้ นายวุฒิชัย ชะนะมา ได้สานต่อกิจการใต้ถุนบ้านจากกล้วยตาก “ป้าเตือน” จากนั้นปรับมาเป็น “กล้วยตากบุปผา” และพัฒนามาเป็น “บานนาน่า โซไซตี้” สานต่อกิจการยาวนาน 50 ปี จนเป็นที่รู้จักของคนทั้่วไปตามห้างสรรพสินค้า ดิวตี้ฟรีสนามบิน และร้านเซเว่นทั่วประเทศ ด้วยการนำบทวิจัยจากหน่วยงานของรัฐเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เพราะหากขายกล้วยตากแบบเดิมขายกล้วย 14 ลูก ราคา 40 บาท แต่เมื่อนำมาชุบช็อกโกแลตเคลือบถั่วอัลมอนด์ สตรอว์เบอร์รี ห่อด้วยแพ็กเกจสวยงาม ขายได้ลูกละ 10 บาท เพิ่มมูลค่ากว่า 100%
กล้วยตาก บานนาน่า โซไซตี้ จึงได้รวบรวมกล้วยจากท้องถิ่น จ.พิษณุโลก และจังหวัดใกล้เคียง นำมาตากแห้งในโรงอบผ่านนวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์พาราโบลาโดม จากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน และขยายโดมเพิ่มเติม เพื่ออบกล้วยตาก 200-300 ตันต่อปี ต้องใช้กล้วยสุก 600 ตันต่อปี โดยไม่ใส่สารกันบูด ไม่ใส่น้ำตาล เพราะความหวานจากธรรมชาติของกล้วย จึงได้ขอมาตรฐาน ISO 9001 HACCP GMP อย. โดยทำตลาดขายกล้วยตากในประเทศ 70% และส่งออกไปญี่ปุ่น 30% เน้นการศึกษาวิจัย R&D เป็นหลักสำคัญของกิจการ
เมื่อสินค้าได้รับความสนใจจากตลาด จึงต้องหาทุนหมุนเวียนให้เพียงพอ รองรับการขยายกิจการและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ด้วยการพึ่งพา บสย.ค้ำประกันสินเชื่อถึง 4 รอบ ทั้งขยายกิจการและใช้ทุนหมุนเวียนรองรับออร์เดอร์สินค้าที่ต้องการซื้อสินค้าจำนวนมาก ยอมรับว่า บสย.มาช่วยเติมเต็มให้กิจการเดินหน้าต่อไปได้
ด้วยคุณประโยชน์ของกล้วยไทย เต็มไปด้วยสารอาหารโปแตสเซียม ลดอุณหภูมิร่างกาย คลายความเหนื่อยล้า ลดอาการเป็นตะคริว และปลูกได้ดีเมืองไทย จึงเป็นผลไม้พืชเศรษฐกิจสำคัญอีกชนิดทำรายได้ดีให้กับเกษตรกร. – สำนักข่าวไทย