นครราชสีมา 14 ก.ย.- สพม.31 โคราชสั่งย้ายครูพละปาแก้วถูกลูกศิษย์รูปหน้าเสียโฉมไปช่วยราชการโรงเรียนอื่น พร้อมตั้งชุดสอบข้อเท็จจริง ตำรวจโคราชเรียกครูรับทราบข้อหาทำร้ายร่างกาย ด้าน ผอ.โรงเรียนเผยเจ้าตัวเสียใจและรับผิด เชื่อไม่มีเจตนาทำร้ายเด็ก ขณะที่เพื่อนนักเรียนเล่าเหตุการณ์วันนั้น
ความคืบหน้ากรณีครูพละชาย อายุ 58 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ขว้างแก้วกระเด็นไปถูกบริเวณใบหน้าของนักเรียนหญิง อายุ 17 ปี ชั้น ม.5 ขณะนั่งเรียนวิชาเซปักตระกร้อได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้กล้ามเนื้อบวมทับเส้นประสาทจนรูปหน้าเสียโฉม ตาซ้ายปิดไม่สนิท ปากเบี้ยว วันต่อมาผู้ปกครองได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.โชคชัย เรียกค่าเสียหาย 300,000 บาท ซึ่งครูพละดังกล่าวขอจ่าย 100,000 บาท พร้อมค่ารักษาพยาบาลอีก 40,000 บาท แต่ตกลงกันไม่ได้ ผู้ปกครองจึงร้องเรียนมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
ล่าสุดนายชูเกียรติ วิเศษเสนา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต.31 (สพม.31) นครราชสีมา มีคำสั่งด่วนตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง และมีคำสั่งย้ายครูพละรายนี้ไปช่วยราชการที่โรงเรียนในอำเภอเมืองนครราชสีมา มีผลตั้งแต่วันนี้ (14 ก.ย.) เป็นต้นไปจนกว่าผลการสอบข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ
ว่าที่ ร.ต.นิพนธ์ ภักดีแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า โรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และคณะกรรมการที่ สพม.31 แต่งตั้งขึ้นได้ลงพื้นที่สอบปากคำบุคคลแวดล้อม รวมทั้งครูพละ คาดว่าอีก 2-3 วัน คงจะมีผลการตรวจสอบจะออกมา ส่วนคดีอาญานั้นได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย เพื่อให้ครูพละมารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของครูพละเช่นกัน จึงไม่ขอพบสื่อและของดให้สัมภาษณ์สื่อใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งครูพละเคยร่าเริงขณะนี้กลายเป็นคนเงียบ โดยเจ้าตัวก็ยอมรับผิดและเสียใจสิ่งที่เกิดขึ้น ระบุว่าไม่ได้เกิดจากการขว้างแก้วหวังทำร้ายลูกศิษย์ ขณะนี้โรงเรียนเตรียมทีมเป็นตัวแทนนักกีฬาของจังหวัดนครราชสีมาไปแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติที่จะมีขึ้นต้นปีหน้า
ส่วนนักเรียนชายเพื่อนร่วมชั้นของผู้บาดเจ็บเล่าว่า วันเกิดเหตุตนและเพื่อนอีก 35 คน อยู่ในเหตุการณ์ กำลังเรียนวิชาเซปักตระกร้อ ซึ่งครูได้เดินเข้าไปทำสลาก เพื่อให้นักเรียนจับแบ่งทีม แต่มีเพื่อนบางคนที่นั่งตากแดดขยับเข้ามายืนพิงกระจกข้างห้องพักครูเพื่อหลบแดด รวมถึงผู้บาดเจ็บ และเพื่อนคนอื่นก็คุยกันเสียงดัง เมื่อครูออกมาเห็นนักเรียนเสียงดังไม่เข้าแถวเป็นระเบียบจึงโยนแก้วเมลามีนใส่กระจกห้องหวังปราม แต่แก้วกระเด็นไปโดนหน้าของผู้บาดเจ็บ ขณะนั้นยังไม่มีอาการใด ๆ และยังลงเล่นตะกร้อกับเพื่อนตามปกติ วันต่อมาจึงรู้ว่าไม่สบายและไม่คิดว่าอาการจะรุนแรงเช่นนี้ ส่วนครูพละเป็นใจดี ไม่ค่อยทำโทษ คิดว่าคงไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุ และอยากให้เรื่องจบด้วยดี
ด้าน ร.ต.อ.กานต์ สิงห์ช้างชัย ร้อยเวรสอบสวน สภ.โชคชัย เจ้าของคดี กล่าวว่า ได้สอบปากคำไปแล้วหลายปากทั้งผู้เสียหาย แม่ของเด็ก และเพื่อนนักเรียนอีก 2 คน พร้อมเรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจาตกลงกันเรื่องค่าเสียหายถึง 3 ครั้ง สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ จึงกลายเป็นข่าว วันนี้ได้ประสาน ผอ.โรงเรียนให้แจ้งครูพละมารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” พร้อมกันนี้ได้ประสานแพทย์เพื่อขอใบรับรองในการยืนยันว่าเด็กบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด หากรักษาเกิน 20 วัน ถือว่าอาการสาหัส หากได้ครบถ้วนแล้วจะส่งอัยการฟ้องร้องต่อไป ส่วนคดีแพ่งก็ส่งไปพร้อมกัน เนื่องจากยังตกลงกันไม่ได้ก็ให้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย.–สำนักข่าวไทย