กทม.1 ต.ค.- ผจก.นิติบุคคลหมู่บ้านโกลเด้นนครา ปฏิเสธข้อกล่าวหาคดีนักธุรกิจสาวดับขณะขับรถลงอุโมงค์ฯ ตำรวจยันมีหลักฐานชัด
ความคืบหน้ากรณี น.ส.ภานุมาศ แซ่แต้ อายุ 41 ปี นักธุรกิจสาว จมน้ำเสียชีวิต ขณะขับรถลงอุโมงค์ลอดทางรถไฟที่น้ำท่วมขัง หมู่บ้านโกลเด้นนครา เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา
ล่าสุดนายสรวิศ บัวชุม ผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้าน พร้อมทนายความ เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ
นางคมคาย สงวนนภาพร ทนายความ กล่าวว่า ลูกความปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เพราะไม่มีความผิด เนื่องจากนิติบุคคลหมู่บ้านและหมู่บ้านโกลเด้นนครา ไม่ใช่เจ้าของอุโมงค์ นอกจากนี้ตนได้เดินทางไปที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อสอบถามว่าอุโมงค์ดังกล่าวเป็นของใคร ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย และหมู่บ้านโกลเด้นนครา ซึ่งได้รับคำตอบว่า อุโมงค์ดังกล่าว เป็นของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างหมู่บ้านโกลเด้นนครา โดยมีเอกสารยืนยันความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน เป็นสัญญาเช่าที่ดิน เพื่อก่อสร้างอุโมงค์รอดใต้ทางรถไฟ สำหรับใช้เป็นทางเข้า-ออก ของหมู่บ้าน เชื่อมต่อไปยังถนนกาญจนาภิเษก โดยมีบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งเป็นผู้ก่อสร้าง ดังนั้นลูกความของตน ในฐานะนิติบุคคลหมู่บ้าน จึงไม่มีความผิด เพราะในเอกสาร ระบุชัดเจนว่า บริษัทเอกชนผู้เช่า และบริษัทผู้ก่อสร้าง ต้องรับผิดชอบหากเกิดความเสียหายใดๆแก่ประชาชนในอนาคต โดยมีการทำประกันไว้กับการรถไฟฯด้วย
ทนายความ ยังย้ำว่า เมื่อมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น พนักงานสอบสวนของนครบาลกลับแจ้งความดำเนินคดีกับลูกความตน ซึ่งไม่ถูกต้อง อีกทั้งในวันเกิดเหตุ ลูกความของตน ได้ออกเวรไปแล้ว แต่หลังได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์จอดเสียในอุโมงค์ เนื่องจากเกิดน้ำท่วม ก็ยังเดินทางกลับมา เพื่อให้การช่วยเหลือจนสามารถลากรถออกไปจากอุโมงค์ได้ จากนั้นได้ประกาศแจ้งเตือน ห้ามใช้อุโมงค์ผ่านแอพพิเคชั่นไลน์ของหมู่บ้าน ก่อนปิดทางเข้า-ออก แต่ปรากฎว่า รถผู้เสียชีวิต มีบัตรผ่านจึงผ่านเข้าไปในอุโมงค์
จากนั้นลูกความของตนพร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ดำน้ำลงไปช่วย แต่ไม่สามารถช่วยได้ เพราะน้ำลึกกว่า 2 เมตรและอุโมงค์มืดสนิท ความสูญเสียจึงเกิดขึ้น และว่า ลูกความของตน ถือเป็นพลเมืองดี หากตกเป็นผู้ต้องหา แล้วใครจะกล้าทำความดี
ด้านพันตำรวจเอกอลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยว่า สำหรับผู้ต้องหามีทั้งหมด 5 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน แล้ว 4 คน เป็น รปภ.3 คน ผู้จัดการนิติบุคคลอีก 1 คน ซึ่งยังเหลือประธานนิติบุคคลของหมู่บ้าน ซึ่งยังไม่เดินทางมาและยังไม่ติดต่อประสานงานว่าจะเข้าพบในวันใด ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำผู้จัการหมู่บ้านและรวบรวมหลักฐานที่ทีทั้งหมด เตรียมส่งให้อัยการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมาย กรณีทนายความระบุว่า ผู้ที่ต้องรับผิดชอบความสูญเสียที่เกิดขึ้น คือบริษัทผู้ทำสัญญาเช่าที่ดิน จากการรถไฟแห่งประเทศไทยและบริษัทที่ทำการก่อสร้างอุโมงค์เข้า-ออกหมู่บ้านนั้น จากการสอบสวนพบว่าบริษัทเอกชนผู้เช่าที่ดินจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ส่งมอบความรับผิดชอบให้กับนิติบุคคลหมู่บ้านไปแล้ว ปัจจุบันนิติบุคคลหมู่บ้านเป็นผู้ดูแล จึงยากที่จะปัดความรับผิดได้.-สำนักข่าวไทย