นนทบุรี 21 ก.ย. – กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยยอดจดทะเบียนเดือนสิงหาคมโตต่อเนื่อง มีหลายปัจจัยหนุน มั่นใจทั้งปีได้แน่ 80,000 ราย
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงตัวเลขจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ทั่วประเทศเดือนสิงหาคมมียอด 6,446 ราย เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2561 จำนวน 5,964 ราย เพิ่มขึ้น 482 ราย คิดเป็นร้อยละ 8 และเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2560 จำนวน 7,159 ราย ลดลง 713 ราย คิดเป็นร้อยละ 10
สำหรับประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 583 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 369 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร 177 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนสิงหาคม 2561 จำนวน 23,233 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2561 จำนวน 26,354 ล้านบาท ลดลง 3,121 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12 และเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2560 จำนวน 47,354 ล้านบาท ลดลง 24,121 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51 อย่างไรก็ตาม ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 ส.ค. 61) ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ 710,587 ราย มูลค่าทุน 17.96 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด / ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 184,739 ราย คิดเป็นร้อยละ 26.00 บริษัทจำกัด 524,639 ราย คิดเป็นร้อยละ 73.83 และบริษัทมหาชนจำกัด 1,209 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนสิงหาคม 1,740 ราย เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2561 จำนวน 1,688 ราย เพิ่มขึ้น 52 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 และเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2560 จำนวน 1,755 ราย ลดลง 15 ราย คิดเป็นร้อยละ 1 ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 163 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 103 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 ส่งผลให้มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนสิงหาคม 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 10,156 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2561 จำนวน 6,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,874 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 62 และเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2560 จำนวน 7,845 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,311 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ตลอดปี 2561 โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.- ส.ค.61) มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท 49,958 ราย เพิ่มขึ้น 878 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.60) 49,080 ราย ซึ่งมีทิศทางสอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีจากภาคการส่งออก รวมถึงการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัว ซึ่งเกิดจากความเชื่อมั่นในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของผู้บริโภค โดยมีดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนสิงหาคม 2561 สูงสุดในรอบ 64 เดือน อยู่ที่ระดับ 83.2 ตลอดจนการวางแนวทางในการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น สำหรับภาคการท่องเที่ยวแม้จะมีเหตุปัจจัยลบมากระทบกับความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว แต่ภาครัฐได้เร่งรณรงค์ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและมีการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว จึงคาดว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวให้ฟื้นกลับมาโดยเร็ว โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยให้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลจะช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสที่เพิ่มขึ้น ทั้งด้านการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน การได้รับการลดหย่อยภาษี และเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อธุรกิจ รวมทั้งมีโอกาสเข้าถึงความช่วยเหลือของภาครัฐมากยิ่งขึ้น และจากการที่กรมได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้ามาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล กรมได้มีการปรับลดความยุ่งยากของขั้นตอนการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล โดยลดขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจโดยการรวมขั้นตอนการจองชื่อและจดทะเบียนนิติบุคคลออนไลน์เป็นขั้นตอนเดียวกัน และลดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดที่ยื่นผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีผลใช้บังคับวันที่ 21 เมษายน 2561 จากเดิม 5,500 – 275,000 บาท เป็น 5,500 บาทอัตราเดียว และการจดทะเบียนออนไลน์ e-Registration 3,850 บาท กรมจึงได้คาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตลอดปี 2561 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 80,000 รายได้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย