กรุงเทพฯ 20 ก.ย. – รองนายกรัฐมนตรีจี้ฝ่ายบริหารการบินไทยสรุปแผนปรับปรุงเส้นทาง จัดหาเครื่องบินใหม่ และปรับปรุงกระบวนการทำงานเสร็จภายในสิ้นปีนี้ พร้อมทั้งขอให้พนักงานและสหภาพฯ ร่วมมือฝ่ายบริหารเร่งทำงานพลิกฟื้นองค์กร
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ผู้บริหาร และคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมงานเสวนา “สานพลังงานพันธมิตรเพื่อไทยก้าวไกลอย่างยั่งยืน” นายสมคิด กล่าวว่า จากการหารือภาคธุรกิจต่างประเทศยืนยันศักยภาพประเทศไทยด้านธุรกิจการบินที่จะสามารถพัฒนาไปสู่ศูนย์กลางการบินที่มีศักยภาพและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ดังนั้น สิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการหลังจากนี้ทุกฝ่ายต้องร่วมกันไม่ว่าสหภาพฯ หรือพนักงานทุกคนต้องร่วมมือ เพื่อให้องค์กรพลิกฟื้นกลับมาเข้มแข็ง หลังจากนี้รัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือทุกด้าน เพื่อให้การบินไทยสามารถร่วมมือกับพันธมิตรเสริมความสามารถการแข่งขัน
นายสมคิด กล่าวว่า ที่สำคัญขอให้ฝ่ายบริหารเร่งทำงาน เพื่อให้เกิดผลในการเปลี่ยนแปลง หลังจากนี้จะให้เวลา 3 เดือนหรือภายในสิ้นปี 2561 ขอให้เร่งจัดทำแผนมาเสนอไม่ว่าการปรับปรุงเส้นทางการบิน เพื่อให้ประสิทธิภาพ การจัดหาเครื่องบิน เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากที่ผ่านมามีบทเรียนมาแล้วว่าสายการบินแห่งชาติของญี่ปุ่นที่ประสบปัญหามีฝูงบินไม่ตอบโจทย์เรื่องการแข่งขันจนนำไปสู่
ภาวะล้มละลาย ขณะเดียวกันการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล เพื่อเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง การบินไทยต้องจัดหาพันธมิตรทั้งระบบขนส่งอื่นและสายการบินชั้นนำอื่น ๆ เพื่อให้เกิดการบินเชื่อมโยงกัน หากมีเครื่องบินมาลงจอดที่ไทยจำนวนมากการผลักดันให้ประเทศมีเมืองการบินและเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคก็จะดำเนินการได้
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการการบินไทย กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) อนุมัติแผนฟื้นฟูการบินไทยและกำหนดเป้าหมายขับเคลื่อนองค์กรในอนาคต เพื่อให้เป็นสายการบินชั้นนำ 1 ใน 5 ของโลกภายในปี 2565 และเป็นสายการบินแห่งชาติระดับพรีเมี่ยม ซึ่งการผลักดันไปสู่เป้าหมายดังกล่าวนอกจากพัฒนาองค์กรตนเองแล้วจำเป็นต้องมีพันธมิตรร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องนโยบายรองนายกรัฐมนตรีที่ให้รัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง ประกอบด้วย การบินไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ธนาคารกรุงไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกันเป็นพันธมิตร เพื่อแชร์ข้อมูลหรือบิ๊กดาต้าใช้ประโยชน์ร่วมกัน นอกจากทำให้การบินไทยพลิกฟื้นกลับมาเข้มแข็งแล้วยังส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศอย่างยั่งยืน
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย กล่าวว่า วันนี้เดิมตั้งใจให้ข้อมูลพูดคุยกับพนักงานถึงเป้าหมายการขับเคลื่อนในอนาคต และถือเป็นโอกาสดีได้หารือพันธมิตรมีส่วนขับเคลื่อนและร่วมมือกันพัฒนาธุรกิจการบินและท่องเที่ยวของประเทศ สิ่งสำคัญที่ต้องขับเคลื่อน คือ การกำหนดเป้าหมายสร้างรายได้ให้เติบโต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญโดยเฉพาะรักษาส่วนแบ่งการตลาดที่ในอดีตประสบปัญหาลดลงอย่างต่อเนื่อง ดูจากตัวเลขปี 2556-2561 พบว่าส่วนแบ่งการตลาดลดลงร้อยละ 10 จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องรักษาส่วนแบ่งการตลาดให้ได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันต้องรุกธุรกิจที่มีศักยภาพและการเติบโต เช่น ธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่มให้แก่สายการบิน ส่วนนี้การบินไทยต้องขยายธุรกิจสร้างการเติบโตให้มากขึ้น และต้องร่วมกับ 3 รัฐวิสาหกิจที่พูดคุยกันวันนี้ พร้อมทั้งขอความร่วมมือพนักงาน ที่ผ่านมาการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารเจแปนแอร์ไลน์สามารถบริหารพลิกฟื้นองค์กรกลับมาได้นั้น ระบุชัดเจนว่าการจะสามารถพลิกฟื้นองค์กรได้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ พนักงานต้องรักองค์กรและเสียสละร่วมกันทำงาน จึงจะทำให้องค์กรเข้มแข็ง.-สำนักข่าวไทย