สำนักข่าวไทย 7 ก.ค.-อัยการขออย่าเพิ่งด่วนสรุป ‘คดีหวย 90 ล้าน’ ให้รอการพิสูจน์ก่อน หลังเพจดังโพสต์ข้อความระบุกรณีนี้อาจเป็นเรื่องโอละพ่อ ชี้ถ้าเป็นเรื่องจริงต้องชื่นชมแต่ถ้าพิสูจน์แล้วเป็นเท็จ เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
จากกรณีข่าวฮือฮาที่นายธนวรรธน์ คำแหงพล ‘พีท’ พ่อค้าขายลอตเตอรี่ที่ขายอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาถนนเอกชัย ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ระบุหลังจากที่ลูกค้าสั่งซื้อหวยเลข 510 จำนวน 15 ใบ ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ก่อนตรวจพบว่าลูกค้าถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 734510 งวด 1ก.ย.2561 รวมเงินรางวัล 90 ล้านบาทและแม้ลูกค้ายังไม่ได้จ่ายเงินแต่พ่อค้ารายนี้ก็ไม่คิดจะเอาลอตเตอรี่ไว้เป็นของตนเอง เก็บไว้ให้กับลูกค้าคนดังกล่าวจนกลายที่เป็นที่ชื่นชมอย่างมาก ล่าสุดวันนี้ (7ก.ย.)เพจ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้โพสต์ข้อความที่ระบุว่า กรณีนี้อาจเป็นเรื่องโอละพ่อ ขอท้าพิสูจน์ว่าเรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังหวังผลประโยชน์ ว่า “เคสที่บอกขายหวยถูก 90 ล้าน อาจโอละพ่อไม่จริงชมรมขอท้าพิสูจน์มั่นใจว่าหวังผลบางอย่างจึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน” นั้น
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองเลขานุการอัยการสูงสุดและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องรอการพิสูจน์ที่แน่ชัดก่อนจึงจะพูดได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องชื่นชม แต่ถ้าพิสูจน์แล้วว่าเป็นเท็จ เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่าข่าวออนไลน์ไปเร็วมากจนน่ากลัว จึงมีสิทธิ์เข้าข่ายหากผ่านการพิสูจน์แล้ว
ส่วนข้อเท็จจริงนั้น จะไปสร้างความเสียหายแก่ใครหรือไม่ก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จากการติดตามข่าวข้อมูลที่ออกมายังไม่มีการให้ร้าย หรือใส่ความใคร ประเด็นนี้จึงยังไม่ชัดเจนนัก
ทั้งนี้ เรื่องนี้คงต้องรอการพิสูจน์จากทางตำรวจ เพราะปัจจุบันหลักฐานต่างๆสามารถตรวจสอบได้ไม่ยาก ทั้งขั้วสลากกินแบ่งรัฐบาล หลักฐานการโทรศัพท์อ้างอิงบุคคล หรือสนทนาทางไลน์ก็ตรวจสอบได้ทั้งสิ้น หากเปรียบเทียบกับกรณีที่เป็นข่าวโด่งดังอย่างสมพงษ์ เลือดทหาร ก็อาจจะเหมือนกันที่ให้ข้อมูลเท็จ เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่จะไม่เหมือนตรงที่สมพงษ์ผิดข้อหาเข้าข่ายหลอกลวง ไปเอาเงินรางวัลจากสถานที่ต่างๆจากการกระทำอันเป็นเท็จ
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงจะเป็นบทเรียนสำคัญให้สังคม และหน่วยงานต่างๆควรจะต้องตรวจสอบทุกการกระทำของบุคคลที่เป็นข่าวก่อนจะไปตัดสิน รวมทั้งมอบรางวัลเชิดชูให้แก่ใคร.-สำนักข่าวไทย