ทำเนียบฯ 5 ก.ย.- รองนายกรัฐมนตรีเผย จะนัดหารือพรรคการเมือง หลังจาก กม.ลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งอีก 2 ฉบับประกาศใช้ ยืนยันพรรคการเมืองมีเวลามากพอในการใช้หาเสียงประกาศนโยบาย ไม่ทราบข่าวปรับครม.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการนัดหารือระหว่างรัฐบาลกับพรรคการเมืองว่า การหารือดังกล่าว ควรจะเกิดขึ้นหลัง ร่างพ.ร.ป.เกี่ยวกับการเลือกตั้งอีก 2 ฉบับ โปรดเกล้าฯ แล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องรอให้มีคำสั่งตามมาตรา 44 เพื่อคลายล็อกให้ทำกิจกรรมทางการเมือง แต่หากรอให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นทั้งหมดตามกระบวนการก็จะเป็นเรื่องที่ดี ไม่จำเป็นต้องนัดหารือในทันที แต่เมื่อเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หากนัดได้เร็วก็จะเป็นการดี
ส่วนที่พรรคการเมืองกังวลเกี่ยวกับระยะเวลาในการการหาเสียงเลือกตั้งจะเพียงพอหรือไม่นั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากคำนวณตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ เชื่อว่าจะมีเวลาในการหาเสียงเพียงพอ เพราะน่าจะมีเวลามากกว่า 60 วัน ขณะที่การใช้แอพพลิเคชั่นไลน์นั้น พรรคการเมืองสามารถใช้ติดต่อกับสมาชิกพรรคได้ แต่จะใช้เป็นช่องทางหาเสียงไม่ได้ ซึ่งการหาเสียงจะทำได้ เมื่อมีการปลดล็อกทางการเมืองแล้ว
“หากกฎหมายลงประกาศใช้ในสัปดาห์หน้า ก็ทิ้งไว้ 90 วัน ก็จะตกกลางเดือนธันวาคม แล้วถ้ายึดวันที่ 24 กุมภาพันธ์เป็นหลัก ก็จะมีเวลาตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ไปจนเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์อีก ก็เป็น 60 กว่าวัน เกือบ 70 วัน ผมถึงบอกว่าเหลือเฟือ อาจจะมากกว่าทุกครั้ง” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลงเล่นการเมืองในอนาคต ว่า ส่วนตัวไม่ทราบ แต่ตามขั้นตอนทางกฎหมาย อันดับแรก นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญหากจะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะต้องลาออกจากตำแหน่งก่อนหน้านี้ ดังนั้นจะต้องใช้ช่องทางอื่นตามรัฐธรมนูญ คือต้องมีเสียงข้างมากในสภาฯ เห็นชอบ ซึ่งต้องไปดูว่าพรรคการเมืองได้เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาหรือไม่ เพราะหากไม่มีการเสนอชื่อ ก็จะถือว่าเป็นบุคคลภายนอก
“การดำเนินการต้องผ่านขั้นตอนที่ หนึ่ง สองและสาม จนกระทั่งถึงทางตันแล้ว จึงจะกลับไปสู่ การเปิดช่องให้เอาบุคคลที่ไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีที่พรรคเสนอ รัฐธรรมนูญระบุไว้” นายวิษณุ กล่าว และว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ จะลงเล่นการเมืองด้วยการนั่งที่ปรึกษาพรรค หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค หรือสมาชิกพรรค ก็สามารถทำได้ทั้งหมด
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวมีรัฐมนตรีจะลาออกจากตำแหน่ง ว่า ไม่ทราบ ขณะที่การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงานนั้น เท่าที่ทราบในวันนั้น นายสมคิด ติดภารกิจและไม่ได้อยู่ในห้องทำงาน เป็นเรื่องที่สื่อฯนำเสนอกันไปเอง
นายวิษณุ ยังกล่าวถึง กฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า การเลือกตั้งท้องถิ่น ตามกรอบเวลา น่าจะเกิดขึ้นได้ ภายหลังจากมีการเลือกตั้งทั่วไปแล้ว ซึ่งตามกฎหมายระบุว่า หากจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ต้องให้ คสช.หรือ ครม.เป็นผู้กำหนด ไม่ใช่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) .-สำนักข่าวไทย
