สธ.4 ก.ย.-ปลัด สธ.เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถกหาทางแก้ร่าง พ.ร.บ.ยา โดยมีตัวแทนเครือข่ายเภสัชกรทั่วประเทศ และสถาบันการศึกษาเข้าร่วม ย้ำห่วงเรื่องการปรุงยาและวิชาชีพอื่นยาแทน เนื่องจากขณะนี้เชื่อว่าสัดส่วนเภสัชกรมีเพียงพอ
หลังจากที่พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายรัฐมนตรี มีคำสั่งให้เร่งแก้ไขปัญหา ร่าง พ.ร.บ.ยา ที่เกิดกระแสคัดค้านและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงกรณีให้บุคคลอื่นสามารถสั่งจ่ายยาได้นั้น เรื่องนี้ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และตัวแทนคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , มหาวิทยาลัยขอนแก่น และชมรมเภสัชสาธารณสุข ,กลุ่มเขียวมะกอก ,กลุ่มรวมใจ และนายกสภาเภสัชกรรม เข้าร่วมหารือ
ภก.ประพนธ์ อางตระกูล อดีตรองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า การคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ยา พ.ศ….ว่าแต่ละวิชาชีพมีการเรียนมาแตกต่างกัน อย่างเวชกรรมแพทย์ จะเน้นเรื่องการตรวจวินิจฉัยรักษาโรค ส่วนเภสัชกรจะเน้นเรื่องของยา สูตรยา การผสมยาอย่างไรให้เหมาะสมกับคนแต่ละประเภท หรือการใช้ยาร่วมกับยาตัวอื่น หรืออาหารเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งในแต่ละวิชาชีพมีการเกื้อหนุนกัน ก็จะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ อีกทั้ง หากมีการแยกระหว่างผู้สั่งยากับผู้ปรุงยา เพราะจะทำงานช่วยกันตรวจสอบซึ่งกันและกัน และเห็นว่า ขณะนี้อัตรากำลังเภสัชกร มีเพิ่มมากขึ้นถึง 40,000 คน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้วิชาชีพอื่นจ่ายยาทั้งหมด ควรมีการกำหนดให้วิชาชีพอื่นจ่ายยาแทนได้ในบางพื้นที่ ที่มีความขาดแคลนเภสัชกร พร้อมห่วงปัญหาเรื่องการให้วิชาชีพอื่นปรุงยา อาจทำให้ตำรับยาต่อไปมีความสับสน และถูกต้อง .-สำนักข่าวไทย