เศรษฐีนครศรีฯ พาครอบครัว 7 ชีวิต หนีตายข้ามจังหวัด อ้างถูกลูกเขยตามล่า-ขู่ฆ่า

ตรัง 23 ส.ค.-เศรษฐีชาวนครศรีธรรมราชพาครอบครัวรวม 7 ชีวิต หนีตายจาก จ.นครศรีธรรมราช มาขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าฯ ตรัง ระบุถูกเขยซึ่งเป็นผู้กว้างขวางของจังหวัดทำร้ายร่างกายลูกสาว ตามไล่ล่า และขู่ฆ่าทั้งครอบครัว สาเหตุเพราะลูกเขยติดยาเสพติดอย่างรุนแรงมายาวนานจนหลอน


เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (22 ส.ค.) นายสำเร็จ อายุ 79 ปี นักธุรกิจส่งออกส้มโอ “ทับทิมสยาม” รายใหญ่ ชาว อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมครอบครัว พาภรรยา ลูกสาว 2 คน หลานชาย วัย 15 ปี และหลานสาวฝาแฝด วัย 10 ปี รวม 7 ชีวิต หลบหนีตายจาก จ.นครศรีธรรมราช มาขอความช่วยเหลือจากนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง โดยอ้างว่าถูกลูกเขย พ่อของเด็กชายอายุ 15 ปี และเด็กหญิงฝาแฝด ซึ่งเป็นคนมีชื่อเสียงและกว้างขวางคนหนึ่งของ จ.นครศรีธรรมราช ทำร้ายร่างกายทั้งการตบตีภรรยา จ่อยิงแต่กระสุนปืนด้าน ข่มขู่ฆ่าลูก พ่อตา แม่ยาย และทุกคนให้ตายยกครัวมายาวนานหลายปี สาเหตุเพราะติดยาเสพติดอย่างรุนแรงมายาวนาน จนเกิดอาการหลอน และหวาดระแวงคนในครอบครัว จนสั่งห้ามทุกคนออกไปธุระนอกบ้านหากไม่จำเป็น เด็กๆ ไม่ได้เรียนพิเศษ และทำให้ทั้งหมดอยู่ในอาการหวาดกลัวและยอมจำนนมายาวนาน


ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ลากตัวตัวภรรยาขึ้นรถกลับบ้านระหว่างออกไปรับลูกที่โรงเรียน จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนตบตี และจ่อศีรษะลากตัวกลับไปทำร้ายร่างกาย รวมทั้งอาวุธมีดจี้บริเวณคอจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่นายวิรัตน์ จะรีบออกไปทำธุระนอกบ้าน หลังจากได้รับโทรศัพท์ พร้อมกับข่มขู่ก่อนออกจากบ้านว่า กลับมาจะยิงทิ้งทั้งครอบครัว รอให้ลูกๆ กลับมาพร้อมหน้ากันก่อน จากนั้นทุกคนในครอบครัว นำโดยนายสำเร็จ อาศัยจังหวะลูกเขยออกไปนอกบ้าน จึงรีบพาทุกคนในครอบครัวหนีออกจากบ้านด้วยเสื้อผ้าชุดเดียว ขณะที่เด็กๆ ก็หนีออกมาทั้งชุดนักเรียน 

จากนั้นพาลูกสาวไปตรวจร่างกาย พบบริเวณใบหน้าได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก และเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ปากพนัง ข้อหาทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า แต่จนถึงขณะนี้ตำรวจก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ กับผู้ก่อเหตุ จากนั้นทั้งหมดก็พากันหลบหนีไปเรื่อยๆ โดยที่เด็กๆ ต้องขาดเรียนมาแล้วเป็นเวลานานนับสัปดาห์ โดยมีผู้ก่อเหตุพร้อมพวกได้ใช้ความพยายามติดตามไล่ล่า และส่งข้อความหาลูกๆ เป็นระยะๆ ว่าจะฆ่าทิ้งให้หมด 

จนกระทั่งเมื่อเย็นวันที่ 21 ส.ค. ลูกเขยตามไปจนพบแหล่งกบดานของทุกคนที่ อ.ปากพนัง ทั้งหมดจึงออกหนีอีกครั้ง และหนีเข้ามา จ.ตรัง เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ประสานนำตัวทั้งหมดไปรับการคุ้มครองที่ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ จ.ตรัง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้