อโศก 21 ส.ค.-ครอบครัว ‘เสก โลโซ’ เปิดใจ ยืนยันเสกป่วยไบโพลาร์ขั้นสุดท้าย ไม่มียาเสพติดมาเกี่ยวข้อง
ความคืบหน้าของร็อกเกอร์ชื่อดัง เสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ ที่ถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาลขณะไลฟ์สด ช่วงค่ำวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังไลฟ์สดมาราธอน 13 วัน รวมกว่า 9 พันนาที โดยเป็นการร่วมมือกันของอดีตภรรยาเก่า-ภรรยาปัจจุบัน ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้(21ส.ค.) ครอบครัวของร็อกเกอร์คนดัง ประกอบด้วย ‘เสือ’ เสฏกานต์ ลูกชายคนโต วัย 21 ปี , ‘กานต์’ วิภากร อดีตภรรยา และ ‘อีฟ’ อภิสร์ญา ภรรยาคนปัจจุบันออกรายการทีวีดิจิทัลช่องหนึ่ง มีกองทัพสื่อมวลชนมาฟังการเปิดใจ
กานต์ อดีตภรรยา กล่าวว่า แฟนคลับที่ตามดูไลฟ์เห็นว่าเสกมีท่าทางไม่ค่อยดีหลังคุยคนเดียวมา 3 วัน จึงโทรหาอีฟภรรยาคนปัจจุบัน ซึ่งเปิดเผยว่าอาการเสกไม่ค่อยดี ช่วงหนึ่งมีร้องไห้ตลอดเวลา แต่ไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะเสกอยู่ในห้องครัว มีมีดอยู่ใกล้ ๆ กังวลจะทำร้ายตัวเองจึงคุยวางแผนว่าให้รถพยาบาลมารับตัวไป
ด้านเสือ ลูกชาย บอกว่าหลังคุยกันตกลงวางแผนเบื้องต้นจะให้ยานอนหลับที่เป็นน้ำผสมในเครื่องดื่มแล้วนำตัวพ่อออกมา ขณะที่อีฟเกรงจะเกิดอันตรายจึงไม่ได้ใส่ลงไปในน้ำจึงทำให้เสกไม่หลับและไลฟ์สดต่อได้ ตนจึงวางแผนใหม่ด้วยการคุยกับนิติบุคคลของหมู่บ้านจะให้รถพยาบาลมารับตัว แต่ รปภ.ของหมู่บ้านไม่ให้เข้า กระทั่งต้องใช้รถอีกคันโดยอ้างว่าเป็นรถมารับของบริจาคจึงสามารถเข้าไปถึงบ้านพักและรับตัวพ่อไปโรงพยาบาลได้ในที่สุด โดยหลังจากไปโรงพยาบาลเข้าสู่วันที่3 หมอที่ดูแลรักษาอาการบอกว่าร็อคเกอร์ดังเป็นไบโพล่าร์ระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับสุดท้ายมีอาการหลอนและระแวง แต่ไม่ใช่โรคจิต ย้ำสามารถรักษาให้หายได้แต่ต้องกินยาตลอด ซึ่งครอบครัวจะให้แพทย์นำเข้าสู่กระบวนการรักษาหลังจากที่เสก โลโซไปหาหมอครั้งสุดท้ายเมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่อดีตภรรยา ย้ำด้วยว่าอาการของเสกไม่มีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว เนื่องจากผลตรวจปัสสาวะก็ไม่แสดงว่ามีสารเสพติดหรือฉี่ม่วง ซึ่งขณะนี้ถือว่าเป็นโรคไบโพลาร์อย่างเดียวแล้ว เป็นมานานกว่า 10 ปี มีอาการโรคซึมเศร้ารวมอยู่ด้วย ไม่อยากเจอใคร ไม่คุยกับใคร เก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอน แม้แต่ลูกชายก็ไม่ยอมคุยด้วย ที่ผ่านมาได้รับการรักษาโรคไบโพลาร์ หมอที่ดูแลให้ยาปรับสภาวะทางอารมณ์ แต่ร็อคเกอร์ไม่กินยาทำให้อาการไม่ดี รักษาไม่ได้ผลและที่ทุกคนช่วยกันวางแผนในการเข้ามาช่วยเสกเพราะหวังดีและบริสุทธิ์ใจอยากให้เสกหายจากโรคนี้กลับมาเป็นเสกโลโซคนเดิม แต่หากรู้ภายหลังว่าครั้งนี้เป็นการวางแผนพาตัวส่งโรงพยาบาลแล้วเกิดโวยวายขึ้นมา ตนก็จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีกแล้ว โดยช่วงค่ำวันนี้ตนพร้อมลูกชายจะเดินทางไปเยี่ยมเสกที่โรงพยาบาล ส่วนการรักษาจะให้แพทย์ดำเนินการรักษาตามขั้นตอน .-สำนักข่าวไทย