กรุงเทพฯ 23 ก.ค. – ประธานบอร์ด กฟผ.-เอ็กโก ย้ำดำเนินการแบบธรรมาภิบาล ส่วนกรณีสินบน MHPS ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ จึงไม่ขึ้นบัญชีดำ และย้ำชัดไม่มีนโยบายซื้อคืนหุ้นจากกลุ่มทุนญี่ปุ่น
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บมจ.ผลิตไฟฟ้า หรือเอ็กโก กล่าวว่า ขณะนี้แม้ทราบข่าวว่าอัยการกรุงโตเกียวประกาศถอนฟ้องบริษัทมิตซูบิชิ ฮิตาชิ เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ (MHPS) ในคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่ไทย เนื่องจากบริษัทให้ความร่วมมือในการสอบสวนคดีดังกล่าว ภายใต้ข้อตกลงการต่อรองการรับสารภาพ หรือ plea bargain ของญี่ปุ่น โดยข่าวระบุว่าสินบนดังกล่าวเป็นการจ่ายให้เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าประมาณ 20 ล้านบาทนั้น อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้เอ็กโกและ กฟผ.สรุปรายงานทั้งหมด เพราะเป็นการดำเนินการนำเข้าเครื่องจักรของโรงไฟฟ้าขนอม 4 ที่ดำเนินการโดยเอ็กโกบริษัทในเครือของ กฟผ
ส่วนการสั่งซื้อเครื่องจักรโรงไฟฟ้าในอนาคต จาก MHPS นั้น นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ทาง กฟผ.และเอ็กโก จะไม่ขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็กลิสต์ แม้เอ็กโกจะเป็นแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต (Thailand’s Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption – CAC) ซึ่งนับเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของกลุ่มเอ็กโกในการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพราะต้องดูถึงเจตนารมย์ของคู่ค้า โดยกรณีนี้ พบว่าเป็นการดำเนินการให้สินบน เป็นเรื่องของบุคคลน พนักงาน MHPS ประมาณ 3 คนเท่านั้น
นอกจากนี้ กฟผ.ก็ไม่มีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนหุ้นในเอกโก้ หรือซื้อหุ้นคืนจากกลุ่มผู้ถือหุ้นญี่ปุ่น แต่อย่างใด แม้จะมีปัญหา กรณี MHPS โดยเรื่องการจะซื้อหุ้น โดย กฟผ.จะต้องเป็นเรื่องนโยบาย แต่หากทางบริษัทมีการเสนอขายก็จะพิจารณา แต่ต้องเป็นโยบายของรัฐบาลด้วย เพราะต้องมีการเสนอขออนุมัติการใช้งบประมาณอย่างเป็นขั้นตอน จาก ครม. ซึ่งขณะนี้แม้แต่นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานก็ไม่ได้มีการให้นโยบายออกมาแต่อย่างใด
“ทางกลุ่มผู้ร่วมทุนญี่ปุ่นก็ถือหุ้นในเอ็กโก มาอย่างยาวนาน มีความร่วมมือที่ดี เป็นพันธมิตรที่ดีกับ กฟผ. และเอ็กโก ก็เป็นหุ้นปันผลที่ดี เมื่อญี่ปุ่นไม่ได้เสนอขาย ทาง กฟผ.คงซื้อคืนไม่ได้ ยกเว้นว่าหากทางญี่ปุ่นมีนโยบายขาย กฟผ.ก็จะขอเจรจาขอมีสิทธิ์ในการพิจารณาซื้อเป็นอันดับต้น ๆ แต่ที่ผ่านมาทางญี่ปุ่นไม่ได้เสนอขายแต่อย่างใด ” นายวิฑูรย์ กล่าว
สำหรับเอ็กโก้เป็นบริษัทในเครือ กฟผ.ถือหุ้นร้อยละ 25.41 และรองลงมา คือ ผู้ถือหุ้นจากญี่ปุ่น TEPDIA Generating B.V. ร้อยละ 23 .49 ..โดย TEPDIA เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Tokyo Electric Power Company (TEPCO) และ Diamond Generating Asia, Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Mitsubishi Corporation ในสัดส่วนการร่วมทุนฝ่ายละ ร้อยละ50 ส่วน MHPS เป็นบริษัทในเครือ กฟผ.
ด้าน บมจ.ยูโอบีเคย์เฮียน วิเคราะห์ว่าข่าวบีบซื้อหุ้น EGCO คืนจาก Mitsubishi ยังประเมินยากว่าเป็นบวกหรือลบต่อหุ้น ทั้งนี้ จากกรณีสื่อบางแห่งลงข่าวว่าผู้ให้สัมภาษณ์ คือ นายวิฑูรย์ เป็นทั้งอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน, ประธานบอร์ด กฟผ. และประธานบอร์ด EGCO จึงตอบยากว่าให้สัมภาษณ์ในมุมมองด้านไหน ขณะที่บริษัทย่อยของ Mitsubishi ที่ถือหุ้น EGCO คือ Diamond Generating Asia ขณะที่บริษัทลูกที่เกิดปัญหาเรื่องสินบน คือ MHPS ซึ่งเป็นบริษัทลูกอีกแห่ง ดังนั้น การขอซื้อหุ้นจึงอาจไม่ใช่เรื่องง่าย และ EGCO ในฐานะบริษัท อาจไม่สามารถขอซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นได้ เมื่อมองจากกฎเกณฑ์ปกติของตลาดทุน การเข้าซื้อถ้าจะเกิดจึงควรเป็น กฟผ.หรือหน่วยงานอื่น ซึ่งก็จะมีปัญหาเรื่องแหล่งที่มาของเงินทุน ดังนั้น ยังมองโอกาสเกิดการซื้อหุ้นตามข่าวดังกล่าวมีความน่าจะเป็นในระดับไม่มาก
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ถึงแม้ MHPS ได้รับการยกเว้นจากการถูกดำเนินคดี แต่อดีตผู้บริหารของบริษัทจำนวน 3 รายก็ได้ถูกกล่าวหาเกี่ยวกับการติดสินบนเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าของไทยที่จ่ายเงินประมาณ 20 ล้านบาท แลกกับการอำนวยความสะดวกต่อการปล่อยคาร์โก้ เครื่องจักรโรงไฟฟ้าขนอม 4 ซึ่งมีน้ำหนักมาก หากไม่จ่ายจะใช้เวลานาน 4-5 เดือนในการดำเนินการนำสินค้าเข้าเพื่อส่งมอบแก่ลูกค้าจะทำให้ MHPS เสียหายเป็นมูลค่ามากถึง 6,000 ล้านเยน. – สำนักข่าวไทย