ยธ.20 ก.ค.-กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ยกระดับช่วยเหยื่อต่างแดน เตรียมลงนามร่วมกับกระทรวงยุติธรรมเกาหลีคุ้มครองคนไทยในเกาหลี 5 หมื่นคน
น.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า จากการเดินทางไปหารือกับกรมสิทธิมนุษยชน กระทรวงยุติธรรม สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งให้ความสนใจในกระบวนการช่วยเหลือประชาชนและช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมของไทย ซึ่งไทยได้เสนอตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนหลายๆ ประเทศ ที่ประสบความสำเร็จ เช่นกับมาเลเซีย ซึ่งการหารือเกาหลีให้ความสนใจมาก เนื่องจากที่ผ่านมาไทยเกาหลี ยังไม่เคยมีข้อตกลงช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมระหว่างกัน แต่ตามกฎหมายไทย หากชาวต่างชาติที่เข้ามาตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม ประสบอุบัติเหตุหรือเสียชีวิตในประเทศไทย จะได้รับการข่วยเหลือ ตามพ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และพ.ร.บ.ค่าทดแทนเหยื่อ หรือจำเลยในคดีอาญาตามกฎหมายของไทยอยู่แล้ว
อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมสิทธิมนุษยชนเกาหลี เตรียมทำบันทึกข้อตกลงให้ความคุ้มครองสิทธิของผู้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมร่วมกัน โดยขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อกฎหมายของทั้ง 2 ประเทศว่ามีความสอดคล้องกันในประเด็นใดบ้าง ซึ่งเบื้องต้นข้อกฎหมายของทั้ง2 ประเทศมีความสอดคล้องกันในหลายส่วน เช่นการเยียวยาผู้เสียหาย การช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกทำร้าย ซึ่งหากกรมตรวจสอบข้อกฎหมาย ทั้ง 2 ประเทศเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าภายในเดือน ก.ค.นี้จะเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อพิจารณา และดำเนินการลงนามร่วมกันต่อไป โดยจะพยายามผลักดันให้มีการลงนามให้ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งตรงกับการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 60 ปีไทย-เกาหลี
อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวด้วยว่า หากมีข้อตกลงร่วมกัน จะเป็นประโยชน์กับคนไทย ที่ไปทำงานหรือพำนักในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างถูกต้องตามกฏหมายซึ่งมีประมาณ 50,000 คน จะได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายจากเกาหลีเช่นกัน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้ทำขัอตกลงแบบเดียวกันนี้ กับมหาวิทยาลัย 20 แห่งในมาเลเซีย ที่เปิดสอนสาขานิติศาสตร์ และมีการส่งนักศึกษามาแลกเปลี่ยนความรู้อย่างต่อเนื่องและมีการบูรณาการความช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมายผ่านสภาเนติบัณฑิตของมาเลเซียในการจัดหาทนายความ ให้กับเหยื่ออาชญากรรมด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการหารือเรื่องดังกล่าวกับประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มอาเซียน เพื่อขยายความคุ้มครองประชาชนในกลุ่มอาเซียน ให้ได้รับความคุ้มครองทางด้านกฎหมายหากตกเป็นเหยือในคดีอาญา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ คนไทยและต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย