กทม. 21 ก.ย. – หลังรัฐบาลใช้ยาแรงสั่งแก้ปัญหาจราจรใน กทม. ที่เข้าขั้นวิกฤติ สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม การปฏิบัติอย่างเข้มข้นได้ผลขนาดไหน และผู้ใช้รถใช้ถนนมีเสียงสะท้อนอย่างไร
ถนนอโศกสุขุมวิท รองรับรถจากถนนสุขุมวิท รัชดาภิเษก พระราม4 – คลองเตย ในชั่วโมงเร่งด่วนมีปริมาณรถกว่า 10,000 คัน เช่นเดียวกับแยกรัชโยธิน ที่ต้องรับรถจากลาดพร้าวและรัชดาภิเษก ซึ่งพบว่าขาเข้าและขาออกท้ายแถวสะสมยาวถึงแยกลาดพร้าว กระทบการจราจรติดเป็นวงกว้างทั่วทั้งกรุงเทพฯ โดยเฉพาะ 21 เส้นทาง อาทิ วิภาวดีรังสิต สีลม และเพชรเกษม
ปัญหาการจราจรติดขัดเป็นใยแมงมุมในช่วงเวลาเร่งด่วน ช่วงเช้า ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมูลค่าหลายล้านบาทต่อวัน รัฐบาลจึงเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดเพื่อลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ
สถิติของกองบังคับการตำรวจจราจรพบว่า หลายเส้นทางการจราจรช่วงเวลาเร่งด่วนเริ่มคลี่คลาย เดิมติดขัดในช่วงเช้า 09.00 น. แต่หลังใช้มาตรการกวดขันวินัยจราจรชนิดเข้มข้น แบบถึงลูกถึงคน ส่งรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ผู้รับผิดชอบงานจราจร ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาและประเมินสถานการณ์บนท้องถนนนาทีต่อนาที รองโฆษกตำรวจมั่นใจใน 1 เดือน สถานการณ์รถติดบน 21 เส้นทาง ช่วงเร่งด่วนจะคล่องตัวขึ้นตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ปัญหาการจราจรติดขัดเกินร้อยละ 70 เกิดจากประชาชนไม่เคารพกฎจราจร ขาดวินัย เอาแต่สะดวกจนส่งผลถึงภาพรวม การจราจรทั้งระบบต้องเสียหาย ตำรวจเชื่อการจราจรกรุงเทพฯ จะหมดปัญหารถติด หากผู้ใช้รถใช้ถนนมีจิตสำนึก มีมารยาทบนท้องถนน เคารพกฎจราจรและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด. – สำนักข่าวไทย