ภูเก็ต 18 ก.ค.-บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนที่ใช้ภูเก็ตเป็นฐานปฏิบัติการหลอกคนชาติเดียวกัน จนสิ้นเนื้อประดาตัวเหยื่อบางรายผูกคอตาย พบมีคนไทยร่วมขบวนการ ยึดเงินสดของกลางกว่า 13 ล้านบาท
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สนธิกำลังตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้า ตำรวจ191 รวม 100 นาย บุกตรวจค้นคอนโดมิเนียม บ้านเช่า โรงแรม ในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต รวมทั้งหมด 4 จุด ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนใช้เป็นฐานปฏิบัติการหลอกให้คนชาติเดียวกันโอนเงินให้ ซึ่งแต่ละจุดมีสมาชิกอยู่จุดละ 2-4 คน มีหัวหน้าบ้านอยู่ 1 คน ทุกจุดพบอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และของกลางที่ใช้ในการดำเนินการ นอกจากนี้ยังพบเงินสดทั้งสกุลไทยและต่างประเทศจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบหนังสือเดินทางของสมาชิกในแก๊งด้วย
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้บุกเข้าจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี อีก 2 จุด และกรุงเทพฯ 1 จุด รวมได้ผู้ต้องหาชาวจีนได้ทั้งหมด 25 คน และคนไทย 4 คน พร้อมของกลางเป็นเงินสดกว่า 13 ล้านบาท ยึดทรัพย์สินที่ใช้ในการก่อเหตุอีกหลายรายการทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจำนวน 8 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 150 เครื่อง Ipad จำนวน 4 เครื่อง เครื่องนับเงินจำนวน 1 เครื่อง บัตรเครดิตจำนวน 135 ใบ บัตรเอทีเอ็มจำนวน 6 ใบ ซิมโทรศัพท์มือถือจำนวน 52 ใบเงินสดสกุลไทยจำนวน 13,568,570บาท และเงินสกุลจีน จำนวน 3,800 หยวนและรถยนต์ ป้ายแดง 1 คัน
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากทางการไทยและรับการประสานขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศจีน ให้ช่วยติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการหลอกลวงคนจีนด้วยกันในประเทศจีน โดยมีคนจีนที่ได้รับความเสียหายที่ประเทศจีนที่ตกเป็นเหยื่อต้องสูญเสียเงินทองและทรัพย์สินจำนวนมากมูลค่าความเสียหายรวมกันมากกว่า 150 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายที่ประเทศจีนถูกหลอกจนหมดเนื้อหมดตัวจนต้องผูกคอตายเสียชีวิต ซึ่งนอกจากการจับกุมที่ จ.ภูเก็ต ในวันนี้แล้วทางตำรวจท่องเที่ยวได้มีการสนธิกำลังในการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่พัทยา 2 จุด และพื้นที่กรุงเทพมหานคร 9 จุด ได้ผู้ต้องหารวมกันกว่า 20 คนโดยหนึ่งในผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในวันนี้ ถือเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ที่มีการก่อสร้างโรงแรมโดยไม่ได้ใบอนุญาตและเป็นนอมินีให้กับคนจีนในพื้นที่พัทยาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวได้คาสนามบินสุวรรณภูมิ
สำหรับการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดในไทยให้เสร็จสิ้นก่อนจะส่งตัวกลับไปดำเนินคดีต่อในประเทศจีน ทั้งนี้มีข้อมูลด้วยว่ากระบวนการ Call Center ที่สามารถจับกุมได้ก่อนหน้านี้นอกจากเป็นชาวจีนแล้วยังมีชาวมาเลเซีย และไต้หวันด้วย โดยแจ้งกล่าว การใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น และการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐาน และดำเนินคดีกับเจ้าของบ้านเช่าหรืออาคารที่ไม่แจ้งข้อมูลในการเช่าให้เจ้าหน้าที่ทางการด้วย ทั้งนี้มีข้อมูลด้วยว่าแก๊ง Call Center ที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้นอกจากเป็นชาวจีนแล้วยังมีชาวมาเลเซีย และไต้หวันด้วย.-สำนักข่าวไทย