กรุงเทพฯ 10 ก.ค. – กระทรวงเกษตรฯ แจงคืบหน้าไทยนิยมฯ เกษตรกรร่วมโครงการ 1.7 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 423 ล้านบาท
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการไทยนิยมยั่งยืนในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณ 24,993 ล้านบาท ขณะนี้เบิกจ่ายงบประมาณ 4,060 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.25 ประกอบด้วย 2 แผนงาน รวม 22 โครงการ โดยผลการดำเนินงานถึงเดือนมิถุนายนพบว่ามีผู้เข้าร่วมโครงการ 1.7 ล้านราย สร้างรายได้เกษตรกรและประชาชนรวมกว่า 423 ล้านบาท ส่วนการติดตามตรวจสอบความโปร่งใสในการดำเนินงาน มีคณะกรรมการเฉพาะกิจติดตามอย่างใกล้ชิดไม่พบปัญหาการทุจริตใด ๆ
สำหรับแผนงานยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำระดับชุมชน สร้างฝายชะลอน้ำ 255 แห่ง พัฒนาแหล่งน้ำสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และซ่อมแซมระบบชลประทาน 32 รายการ 2.การปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อลดความเสี่ยง สนับสนุนเกษตรกรทำกิจกรรมเกษตรอื่นทดแทนการทำสวนยาง รายละไม่เกิน 10 ไร่ 30,000 ราย รวมทั้งฝึกอบรมให้ความรู้ประกอบอาชีพใหม่ ได้รับอนุมัติ 14,893 ราย พื้นที่ 94,660 ไร่ เกษตรกรรับเงินงวดที่ 1 จำนวน 1,620 ราย อบรม 2,739 ราย
3.พัฒนาการผลิตพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ และพัฒนาเครือข่ายผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ โดยถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกร 1,049 ราย จัดเวทีชุมชนอบรมการสร้างทักษะและส่งเสริมอาชีพ 471,000 ราย ขยายฐานการผลิตจุลินทรีย์ให้กลุ่มเกษตรกร 17 กลุ่ม รวม 8.33 ล้านบาท อบรมอาสาผสมเทียม 3,800 ราย อบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืชให้เกษตรกรและเจ้าหน้าที่ 2,372 ราย 4.แก้ไขปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร มีการพัฒนาอาชีพด้วยการฝึกอบรมเกษตรกร 5,038 ราย อบรมการทำบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพแก่เกษตรกร 6,857 ราย ครูอาสา 361 ราย อบรมและพัฒนาสู่การเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ รับสมัครและคัดเลือก Young Smart Farmer (YSF) 2,984 ราย และ 5.บริหารจัดการสินค้าเกษตรและสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อพัฒนาสถาบันเกษตรกรในการจัดเก็บพืชผลทางการเกษตร (แก้มลิง) มีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการ 143 แห่ง สนับสนุนอุปกรณ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรแก่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร เพิ่มศักยภาพการรวบรวมและการแปรรูปยางพาราในสถาบันเกษตรกร 62 แห่ง รวมทั้งส่งเสริมการใช้ยางด้านชลประทาน โดยนำยางพารามาซ่อมแซมและปรับปรุงคันคลองชลประทาน 317 โครงการ มีการรับซื้อน้ำยางสด 3,952 ตัน แปรรูปเป็นน้ำยางข้น 1,880 ตัน สนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร 371 แห่ง 8,503 ล้านบาท
นอกจากนี้ ได้ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป และเอสเอ็มอี โดยร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมีผู้ประกอบการและเกษตรกรได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านอุตสาหกรรมแปรรูป 529 ราย วิสาหกิจสมัครเข้าร่วมโครงการ 747 กิจการ และกระทรวงพาณิชย์ร่วมบูรณาการจัดทำตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วมประชารัฐเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค โดยจัดอบรม 882 ราย แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตอบรมเพิ่มทักษะอาชีพแก่เกษตรกรผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งกระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลัก มีเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการ 131,204 ราย อบรม 12,107 ราย และจ้างงานชลประทานเพื่อสร้างรายได้ในการปรับปรุงโครงการชลประทาน ดำเนินการแล้ว 119 รายการ จ้างแรงงาน 6,426 รายการ
สำหรับขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝนตรงกับฤดูทำนา ทำให้การจ้างแรงงานชลประทานบางจังหวัดไม่เพียงพออาจจะต้องขยายเวลาการดำเนินงานออกไปตามสภาพพื้นที่ ขณะที่การฝึกอบรมบางแห่งอาจต้องปรับย้ายสถานที่จัดอบรมโครงการเพิ่มทักษะอาชีพให้ไปอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับกลุ่มเกษตรกรมากขึ้นและทำการอบรมหลังช่วงฤดูเพาะปลูกให้เหมาะสม รวมทั้งควรติดตามให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างแก่สถาบันเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีความชำนาญ คาดว่าหากดำเนินการเสร็จตามโครงการทั้งหมดจะมีเกษตรกรได้รับประโยชน์ถึง 4.3 ล้านราย ก่อให้เกิดการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า 63,599 ล้านบาท (2.54 เท่าของงบประมาณ) ช่วยให้เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 35,304 ล้านบาท/ปี.-สำนักข่าวไทย