กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมชลฯ วางแผนสูบน้ำออกจากพื้นที่เกษตรลงแม่น้ำโขง หลังพบ 13 นักบอลติดถ้ำหลวง
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (3 ก.ค.) กรมชลประทานยังคงบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสูบน้ำออกจากถ้ำหลวง เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย หน่วยซีล พร้อมหน่วยแพทย์ สามารถนำอาหารและยารักษาโรค พร้อมกับนำทั้ง 13 ชีวิต ออกมาจากถ้ำหลวงอย่างสะดวกรวดเร็ว ซึ่งจากการตรวจสอบไปยังพื้นที่พบว่าระดับน้ำในถ้ำหลวงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของกรมชลประทานยังคงพยายามสำรวจเส้นทางน้ำที่คาดว่าจะไหลลงสู่ถ้ำหลวง เพื่อจะได้สกัดกั้นไม่ให้น้ำไหลลงไปเพิ่ม รวมถึงทางเบี่ยงน้ำ หรือ Bypass น้ำ ที่ทำไว้ยังคงทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ
สำหรับพื้นที่การเกษตรที่มีน้ำท่วมขังที่นา ในพื้นที่บ้านสันปู่เลย 458 ไร่ และบ้านหนองอ้อ 300 ไร่ เนื่องจากต้องรับน้ำที่ระบายออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน และพื้นที่โดยรอบวนอุทยานขุนน้ำนางนอนตลอดหลายวันที่ผ่านมา นั้น กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันวางแผนเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตร โดยวันนี้ (3 ก.ค.) ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว 1 เครื่องของกรมชลประทาน เพื่อสูบระบายน้ำจากพื้นที่น้ำท่วมขังให้ระบายลงสู่ลำน้ำจ้อง ลำน้ำมะ ลำน้ำลวก ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงรายตามลำดับ ซึ่งต้องขอยกความดีความชอบให้กับชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่ที่ยินยอมพร้อมใจกันให้น้ำที่ระบายออกมาจากถ้ำหลวง และหนองน้ำพุ ให้ไหลเข้าไปท่วมพื้นที่การเกษตรของตนได้ ส่งผลให้การปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตนักฟุตบอลที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงประสบผลสำเร็จไปได้ด้วยดี ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะให้การช่วยเหลือและชดเชยเยียวยาเกษตรกรที่เสียสละเหล่านี้ ตามระเบียบต่อไป
ส่วนการสำรวจด้านธรณีวิทยา ทีมเทคนิควิศวกรรมธรณี วิศวกรรมปฐพีกลศาสตร์ ทีมธรณีฟิสิกส์ ของกรมชลประทานและกรมทรัพยากรธรณี ยังคงเข้าพื้นบ้านผาหมี เพื่อดูแลงานป้องกันน้ำที่อาจจะไหลเข้าสู่ ถ้ำหลวงได้อีก พร้อมกันนี้ยังมีทีมสนับสนุนชุดปฏิบัติการเกี่ยวกับการลด/รักษาระดับน้ำ การสนับสนุนข้อมูลแผนที่ดิจิทัล หน่วยสำรวจทำแผนที่ทางพื้นดิน และอื่น ๆ ยังคงเตรียมพร้อมอยู่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ.-สำนักข่าวไทย