นครนิวยอร์ก 23 ก.ย.- นายกรัฐมนตรีพอใจร่วมประชุมสหประชาชาติ และกลุ่มจี 77 ที่นิวยอร์ก คืบหน้าแก้ปัญหาผู้ลี้ภัย การดื้อยาต้านจุลชีพ ขณะที่ภาคเอกชนสหรัฐพร้อมขยายการลงทุนในไทย
“จิตตานันท์ นิกรยานนท์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ระหว่างวันที่ 18-25 กันยายน 2559 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญครั้งที่ 71 และการประชุมกลุ่ม 77 ว่า ได้หารือในหลายประเด็น โดยในการประชุมสหประชาชาติ ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรก ๆ ที่มอบสัตยาบันสารการบังคับใช้ความตกลงปารีสต่อเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่มีความรุนแรงมากขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้รับเชิญจากประธานาธิบดีสหรัฐให้เข้าร่วมประชุมแก้ปัญหาผู้ลี้ภัยภัย เนื่องจากไทยมีบทบาทแก้ปัญหานี้มาอย่างยาวนาน ใช้งบประมาณกว่า 180 ล้านเหรียญสหรัฐดูแลคนเหล่านั้น ทั้งด้านการศึกษา การสาธารณสุข ได้เสนอต่อที่ประชุมว่าการแก้ปัญหาดังกล่าวจะแก้ที่ปลายทางไม่ได้ แต่ต้องแก้ตั้งแต่ปร ะเทศต้นทาง ต้องลดความขัดแย้ง ยุติการสู้รบภายใน ลดปัญหาความยากจนและหาพื้นที่ปลอดภัยให้ เพื่อไม่ให้คนเหล่านั้นออกนอกประเทศ ขณะที่ประเทศยุโรปจะรับผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้นปีละสองเท่า
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้หารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วง ที่มีผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก เพราะหากต้องผลิตยารุ่นใหม่มารักษา จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงยาได้ยากขึ้น ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแผนการจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพฉบับแรกของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้เสนอแนวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทั้งในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ และที่ประชุมกลุ่ม 77 ซึ่งปัจจุบันมีหลายประเทศที่ให้ความสนใจและได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในประเทศของตน สะท้อนให้เห็นว่าแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงทำไว้ไม่ได้มีประโยชน์ต่อประเทศไทยเท่านั้น แต่มีประโยชน์ต่อคนทั้งโลก ส่วนการเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งจอร์แดน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะร่วมมือกับไทยหลายด้าน ทั้งด้านความมั่นคง อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการทำฝนหลวง
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหารือกับภาคเอกชนสหรัฐ ว่า เอกชนส่วนใหญ่ลงทุนอยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว และเชื่อมั่นในศักยภาพเศรษฐกิจของไทย โดยพร้อมจะขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น ทั้งการร่วมทุนใช้ยางผลิตล้อเครื่องบิน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มการใช้ยางในประเทศมากขึ้น และบริษัทวอลมาร์ท สนใจสั่งซื้อสินค้าทางประมงจากไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายอย่างจริงจัง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการพบคนไทยในสหรัฐ ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่คนไทยเหล่านี้แม้บางคนจะได้สัญชาติอเมริกันแล้ว แต่ก็ยังรักประเทศไทย รักสถาบัน โดยขอให้ตนนำพาประเทศให้ปลอดภัย ต้องการให้การบริหารราชการแผ่นดินมีธรรมาภิบาล ลดปัญหายากจน ปัญหาทุจริตในภาครัฐ นอกจากนี้ ขอให้คนไทยดูการจัดระเบียบเมืองอย่างนครนิวยอร์กของสหรัฐ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวเช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร จึงน่าจะนำแบบอย่างการจัดร้านที่ไม่ได้ตั้งในทุกจุดของถนน แต่เลือกที่จะตั้งร้านตามมุมสี่แยก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองแก่กลุ่มจี 77 แล้ว เมื่อเวลา 21.55 น.ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางออกจากนครนิวยอร์ก โดยเที่ยวบิน LH 405 และจะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 06.25 น. วันพรุ่งนี้ (25 ก.ย.) .- สำนักข่าวไทย