กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – วันนี้มีคดีสำคัญทางการเมือง ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรณีออกพาสปอร์ตให้นายทักษิณ ชินวัตร
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรณีออกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกออกหมายจับในหลายคดี ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศ โดยนายสุรพงษ์ เดินทางมารับฟังด้วยตนเอง พร้อมคนใกล้ชิดเพียงไม่กี่คน โดยศาลวินิจฉัยว่า นายสุรพงษ์ตระเตรียมการ รวมถึงสั่งการเพื่อปลดรายชื่อนายทักษิณออกจากบัญชีรายชื่อบุคคลที่ต้องตรวจสอบก่อนออกหนังสือเดินทาง และปลดล็อกในระบบคอมพิวเตอร์ โดยปกปิดซ่อนเร้นเรื่อยมา อันเป็นการฝ่าฝืนต่อแนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ข้อ 21 และยังสนับสนุนช่วยเหลือนายทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกและหลบหนีหมายจับในคดีความมั่นคง ให้สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้โดยสะดวก อยู่ในต่างประเทศโดยไม่ผิดกฎหมาย และรัฐบาลไทยไม่อาจขอให้รัฐบาลประเทศนั้นขับออกจากประเทศหรือส่งผู้ร้ายข้ามแดน อันเนื่องจากเหตุที่ไม่มีหนังสือเดินทางได้ ส่งผลให้กระบวนการยุติธรรมและคำพิพากษาของศาลยุติธรรมไทยอ่อนแอและไม่มีสภาพบังคับ กระทบต่อชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศ
องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากเห็นว่า พฤติกรรมของนายสุรพงษ์ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 คือ ลงโทษจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา เพราะเป็นการกระทำที่บั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม ศาลได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวนายสุรพงษ์ ด้วยวงเงินประกัน 5 ล้านบาท หลังทนายยื่นคำร้อง อ้างเรื่องสุขภาพที่ปัจจุบันนายสุรพงษ์เป็นโรคความดันและโรคเบาหวาน แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ. – สำนักข่าวไทย