กรุงเทพฯ 13
มิ.ย.-ก.พลังงานเตรียมเสนอกรอบต่ออายุโรงไฟฟ้าเอสพีพี
บนเงื่อนไขค่าไฟฟ้าต่ำกว่าเดิมแต่กำลังผลิตไม่ลดลง
นายทวารัฐ
สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน
เตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ที่มี
นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 2
ก.ค.นี้ พิจารณาแนวทางรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก(SPP)ระบบโคเจนเนอเรชั่น ที่จะหมดสัญญาในช่วงปี 2562-2568 หลักเกณฑ์การต่อสัญญานั้น
ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)
ยังอยู่ระหว่างพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งจะมีเรื่องของตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า หรือ เพาเวอร์พูล (Power Pool) เข้ามารองรับกำลังผลิตส่วนเกินด้วย ซึ่งได้ว่าจ้างมูลนิธิเพี่อสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
ศึกษาระบบตลาดกลางซื้อขาย(Power
Pool) คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี
2562
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ก่อนหน้านี้ สมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนได้เข้าพบนายศิริ จิระพงษ์พันธ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เพื่อขอความชัดเจนนโยบายรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก(SPP) ที่จะหมดสัญญาในปี 2562-2568 ซึ่งเบื้องต้น พบว่า นายศิริ
มีนโยบายให้โรงไฟฟ้าSPP ที่จะหมดอายุ สามารถต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับรัฐได้ในปริมาณราว
90 เมกะวัตต์ ต่อเนื่อง 10 ปี แต่ค่าไฟฟ้าต้องถูกลงจากมติ กพช.เดิม เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2559 ที่เห็นชอบให้สร้างโรงไฟฟ้าใหม่และต่ออายุสัญญาSPP ไปอีก 25
ปี ภายใต้เงื่อนไขปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าลดลงเหลือไม่เกิน 30 เมกะวัตต์ หรือไม่เกินร้อยละ 30 ของกำลังการผลิตสุทธิ ไฟฟ้ารวมไอนํ้า
และจะต้องไม่เกินกว่าปริมาณขายไฟฟ้าตามสัญญาเดิมในราคารับซื้อ 2.81 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าSPP ที่จะหมดอายุช่วงปี 2562-2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 23 ราย กำลังผลิตรวมเกือบ 2,000 เมกะวัตต์ –สำนักข่าวไทย