เชียงใหม่ 13 มิ.ย.-กลุ่มผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการมักตกเป็นเหยื่อของขบวนการหาผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ล่าสุด กลุ่มผู้พิการที่เชียงใหม่หลายร้อยคนถูกหลอกเอาหลักฐานไปจัดตั้งบริษัท อ้างเพื่อขอโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล บางรายพิการทางสมอง แต่กลับมีชื่อเป็นเจ้าของบริษัท ร้ายกว่านั้นบางรายได้รับหมายเรียกตกเป็นผู้ต้องหาไม่ยื่นงบการเงินของบริษัท จนเดือดร้อนอย่างหนัก
บ้านหลังเล็กๆ สภาพซอมซ่อ ไม่มีแม้แต่ห้องครัว ในหมู่บ้านแม่ก๊ะตลาด ใน ต.ตลาดใหญ่ อ.ดอยสะเก็ด ที่เชียงใหม่ เป็นบ้านพักที่ “สงกรานต์” หนุ่มวัย 30 ปี ที่พิการทางสมอง อาศัยอยู่กับแม่ที่เก็บของเก่าและพ่อที่รับจ้างก่อสร้าง เรียกว่าหาเช้ากินค่ำ ความเป็นอยู่ยากลำบาก แต่ในทางกฎหมายสงกรานต์กลับมีชื่อเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบริษัทหนึ่ง หลังมีคนมาขอเอกสารหลักฐานทั้งสำเนาบัตรประชาชน สำทะเบียนบ้าน และบัตรผู้พิการ อ้างว่าจะนำไปขอโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล สลากคนพิการ และจะมีปันผลให้ เช่นเดียวกันกับ “ป๋อง” อาของสงกรานต์ ที่อยู่บ้านใกล้กัน และเป็นอัมพฤกษ์เดินเหินลำบาก ก็กลายเป็นหุ้นส่วนของอีกบริษัทหนึ่ง
จากการสอบถามพบว่า มีคนในชุมชนเป็นผู้ประสานงานเก็บเอกสารของผู้พิการใน ต.ตลาดใหญ่ ซึ่งมีไม่น้อยกว่า 50 คน มาตั้งแต่ปี 57 อ้างว่านำไปขอโควตาสลากคนพิการแลกกับปันผล แต่ 4 ปีผ่านไปไม่เคยมีใครได้รับเงิน แถมไม่กี่วันมานี้ผู้พิการบางคน อย่างผู้หญิงที่พิการทางหูคนนี้ ได้รับหมายเรียกจากตำรวจ ถูกกล่าวหาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในข้อหาไม่ยื่นงบการเงินตามที่กฎหมายกำหนด โดยที่เจ้าตัวไม่เคยรู้มาก่อนและคาดว่าจะมีผู้พิการในเชียงใหม่ที่ตกเป็นเหยื่อไม่น้อยกว่า 400 คน
กลุ่มผู้พิการที่ตกเป็นเหยื่อจึงเดินสายร้องขอความเป็นธรรมในหลายหน่วยงาน รวมทั้งศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ซึ่งรับจะเร่งตรวจสอบขบวนการนี้ ที่นำรายชื่อผู้พิการไปจัดตั้งบริษัท ซึ่งเบื้องต้นพบอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นไปได้ว่าจะมีผู้พิการทั่วประเทศอีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อแบบนี้ โดยจะตรวจสอบว่าบริษัทเหล่านี้มีการขอโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลจริงหรือไม่ และได้รับโควตาไปมากน้อยเพียงใด หากเข้าข่ายผิดกฎหมายจะดำเนินการกับขบวนการซ้ำเติมผู้พิการทันที.-สำนักข่าวไทย