กระทรวงแรงงาน 1 มิ.ย..-กลุ่มนายจ้าง ร้องกระทรวงแรงงาน ปลดล็อคอาชีพสงวนเพิ่มให้ต่างด้าวร้านขายของ เก็บ-ทอนเงิน ร้านทำเล็บทาสีได้ หวังแก้ปัญหาขาดแรงงานไทยและส่วย
นายพิภูเอก สกุลหลิม ผู้แทนกลุ่มนายจ้างที่ใช้แรงงานต่างด้าว (GEFW) ประกอบไปด้วย ผู้ประกอบการร้านอาหาร ขายของ ร้านทำเล็บ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานพิจารณาปลดล็อคอาชีพสงวนเพิ่มจากเดิมที่มีแล้ว 12 อาชีพ โดยเสนอให้กระทรวงแรงงาน อนุญาตให้ในงานประเภทร้านอาหาร และขายสินค้า ต่างด้าวควรขายของหน้าร้าน รับเงิน และทอนเงินได้ เพื่อนำส่งให้นายจ้าง และในส่วนงานร้านทำเล็บ ทำความสะอาดมือเท้า ตัดเติมเล็บ แคะเล็บ ควรทาสีง่ายๆ ที่ไม่ใช่การเพ้นท์ได้ด้วย เนื่องจากเป็นงานกรรมกร มิใช่ทักษะขั้นสูง แต่ต้องมีเงื่อนไขคือ ต่างด้าวต้องเป็นลูกจ้าง โดยมีนายจ้างเป็นคนไทยเท่านั้น
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจอยู่รอดเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจได้ เพราะที่ผ่านมาต้องประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานไทย เพราะลักษณะงานดังกล่าวคนไทยไม่นิยมทำ เปิดรับสมัคร 3 เดือนก็ไม่มาและไม่สามารถรับแรงงาน ต่าวด้าวมาทำแทนได้ เพราะตามพระราชกฤษฎีกากำหนดงานในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ.2522 ไม่อนุญาตให้ต่างด้าว ขายของหน้าร้าน เก็บเงินและทอนเงิน และไม่อนุญาตให้ทาสีเล็บ แต่ให้ตัดหรือแคะเล็บได้ ผู้ประกอบการจึงประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก หนำซ้ำยังถูกผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเรียกผลประโยชน์รายเดือน ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ กระทรวงแรงงานควรปลดล็อคอาชีพสงวนตามที่เสนอเพิ่มเติมนี้
นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้แทน รมว.รับหนังสือแทน รมว.แรงงาน กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอของกลุ่มนายจ้าง จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ที่จะมีขึ้นกลางเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้การพิจารณาปลดล็อคอาชีพสงวนเป็นไปอย่างรอบด้าน และเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด โดยการพิจารณาจะต้องยึดหลัก ต้องไม่กระทบความมั่นคงของชาติ อาชีพที่ต่างด้าวทำได้ต้องไม่เป็นงานที่แสดงถึงอัตลักษณ์ วัฒนธรรมของไทย อยุญาตให้ทำเท่าที่จำเป็น และต้องไม่แย่งงานคนไทย
ขณะที่บ่ายวันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ มีกำหนดเป็นประธานการประชุมหารือเกี่ยวกับการปลดล็อกอาชีพสงวนแรงงานต่างด้าว ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันนท์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน ถ.มิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพฯ ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ สภาวิชาชีพ 3 สถาบัน (วิศวกร สถาปนิก บัญชี) นักวิชาการด้านแรงงาน เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย