กทม. 6 ม.ค.-พม. ส่งชุดเคลื่อนที่เร็ว ศรส. ร่วมกับ สน.ลุมพินี ลงพื้นที่หน้าร้านสะดวกซื้อซอยสุขุมวิท 11 พบต่างด้าวแม่ลูก 3 คู่ ผิดกฎหมายขอทาน ส่งตรวจ DNA พิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายโลหิต
น.ส.ซาราห์ บินเย๊าะ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รองปลัด พม.) ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กล่าวว่า กรณีมีการโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย พบเห็นขอทานเด็กกัมพูชานั่งขอทานหน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 ซอยสุขุมวิท 11 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ นั้น เมื่อคืนวันที่ 5 ม.ค. 67 เวลา 20.00 น. ทีมเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. ได้ลงพื้นที่ร่วมกับ ทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี เพื่อจัดระเบียบผู้ทำการขอทานบริเวณถนนสุขุมวิทตามแนวรถไฟฟ้า BTS แยกอโศก กรุงเทพฯ
น.ส.ซาราห์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ปฏิบัติการครั้งนี้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างประเทศ พบผู้ทำการขอทาน 4 ราย มีหญิงชาวกัมพูชา 1 ราย ซึ่งเป็นรายเดียวกับที่เพจดังกล่าวโพสต์ไว้ และคู่แม่ลูกชาวกัมพูชา 3 คู่ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาคัดกรองและทำบันทึกจับกุม เนื่องจากการขอทานเป็นการกระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยขอทานหญิงชาวกัมพูชา 1 ราย ได้มีการเปรียบเทียบปรับ และประสานส่งต่อไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการผลักดันส่งตัวกลับประเทศต้นทางต่อไป ในขณะที่คู่แม่ลูกชาวกัมพูชา 3 คู่ ในเบื้องต้น กระทรวง พม. ได้รับเข้าไว้ในการคุ้มครองชั่วคราวที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เพื่อดำเนินการตรวจพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายโลหิต (DNA) ต่อไป
น.ส.ซาราห์ กล่าวว่า หากพบเห็นขอทาน เราไม่ควรให้เงินด้วยความสงสาร เพราะการขอทานเป็นการกระทำผิดกฎหมาย โดยขอให้แจ้งมาที่ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. ผ่านฮอตไลน์ พม. 1300 บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเรามีชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว พร้อมลงพื้นที่อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์.-315.-สำนักข่าวไทย