กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – รมว.คมนาคม เบรกขึ้นค่าโดยสารทั้งรถร่วม ขสมก.และ บขส. ระบุน้ำมันอยู่ในช่วงขาลง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีผู้ประกอบการรถร่วมบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) มีกำหนดนัดเข้าพบ เพื่อหารือถึงต้นทุนและขอให้พิจารณาปรับค่าโดยสาร ว่า วันนี้ (31 พ.ค.) จะชี้แจงให้ผู้ประกอบการเข้าใจว่าปัจจุบันราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาลง ดังนั้น กระทรวงคมนาคมจึงไม่มีนโยบายให้ปรับขึ้นค่าโดยสาร ส่วนข้อเรียกร้องอื่น ๆ ขอให้ บขส.และ ขสมก. ยกเว้นเงินค่าขา เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการนั้น เป็นเรื่องที่คณะกรรมการหรือบอร์ดของ ขสมก.และบขส.ต้องไปพิจารณา
ส่วนประเด็นการจัดหารถใหม่ตามแผนฟื้นฟูกิจการ เมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) อนุมัติแผนฟื้นฟูแล้ว ซึ่ง คนร.มีข้อเสนอให้การจัดหารถใหม่มีการผสมผสานรถเมล์ล็อตที่ดำเนินการจัดหา 3,000 คันใช้พลังงานหลากหลายทั้งรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันที่จัดหาไปแล้ว รวมถึงรถที่เป็นพลังงานไฮบริดหรือดีเซลกับไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่ ขสมก.จะนำมาทดสอบ
นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานบอร์ด ขสมก. กล่าวว่า แผนฟื้นฟูอื่น ๆ เช่น ภาระหนี้และการขาดทนุสะสมกว่า 100,000 ล้านบาท ขสมก.ยังต้องเดินหน้ากระบวนการเจรจากับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ขณะที่การปรับลดพนักงานต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการจัดหารถเมล์ใหม่ ขสมก.นั้น 3,000 คัน ต้องเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีแก้ไขมติ ครม.เดิมที่อนุมัติจัดซื้อ 3,183 คัน โดยจำนวนจัดหาใหม่ 3,000 คันเมื่อรถเมล์เอ็นจีวีที่จัดซื้อไปแล้ว 2,511 คันจะมีสัดส่วนรถเมล์ไฟฟ้าหรืออีวี 35 คัน ที่เหลือเป็นรถเมล์พลังงานไฮบริด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรถไฮบริดจะมีราคาแตกต่างและอาจจะสูงกว่ารถเมล์ที่เคยอยู่ในแผนจัดซื้อเดิม ดังนั้น บอร์ด ขสมก.จะต้องศึกษารายละเอียดราคารถเมล์ไฮบริดอีกครั้ง เพื่อกำหนดวงเงินรวมของการจัดซื้อรถล็อตใหม่.-สำนักข่าวไทย