สศอ.หวั่นผู้ผลิตย้ายฐานไปเวียดนาม

กรุงเทพ 30 พ.ค. – สศอ.ระบุเวียดนามกีดกันการค้าสินค้าส่งออกจากไทย ทำให้นักลงทุนบางส่วนย้ายฐานการผลิต ระบุหน่วยงานภาครัฐต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาและขยับสู่การหารือแก้ปัญหาในระดับอาเซียนต่อไป


นายณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า ประเทศเวียดนามใช้มาตรการกีดกันทางการค้ากับไทยนานกว่า 10 ปี ล่าสุดใช้มาตรการนี้กับรถยนต์ส่งออก ซึ่งมาตรการกีดกันทางการค้านี้ออกมาพร้อมกับการยกเลิกเก็บภาษีสินค้านำเข้าตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (เออีซี) ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2561 โดยเวียดนามใช้มาตรการกีดกันทางการค้าด้วยการเพิ่มการเข้มงวดในการตรวจสอบรถยนต์ทุกล็อตที่ส่งออกไปจากไทย ซึ่งมีการส่งออกไปยังเวียดนามทุกวัน ทำให้การส่งออกรถยนต์ล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นตามปกติ ซึ่งเรื่องนี้ทาง สมอ.เคยทำเรื่องแจ้งองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เดือนมีนาคม 2561 แต่เรื่องนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ได้รับผลกระทบในการส่งออกรถยนต์ไปเวียดนามกลับไม่ต้องการดำเนินการแก้ไขปัญหา เพราะไม่ต้องการต่อกรกับรัฐบาลใด ๆ

นายณัฐพล กล่าวว่า เชื่อว่าในอนาคตเวียดนามน่าจะมีการขยายการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าไปยังสินค้าอื่น ๆ ผลจากการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าของเวียดนามที่เริ่มจากสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในช่วงประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้มีการย้ายฐานการผลิตไปแล้ว หลังจากนั้นอุตสาหกรรมอื่นก็มีการย้ายฐานการผลิตตามไปด้วย โดย 3 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าย้ายฐานการผลิตออกไปที่เวียดนาม นอกจากนี้ ยังมีการย้ายฐานการผลิตของและอุตสาหกรรมการผลิตโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ และ SSD (Solid State Drives)หรือฮาร์ดดิสก์แบบใหม่ที่เป็นการใช้ชิปหน่วยความจำเก็บข้อมูล


นายณัฐพล กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาตรการกีดกันทางการค้าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้บางอุตสาหกรรม ย้ายฐานการผลิตออกไป แต่เมื่อย้ายฐานการผลิตออกไปก็พบกับปัญหาที่เวียดนามปิดบังเอาไว้ เช่น การปรับเพิ่มค่าแรง เป็นต้น ทั้งนี้ มาตรการกีดกันทางการค้าของเวียดนามส่งผลให้นักลงทุนที่ลงทุนในอาเซียน ซึ่งหวังว่าอาเซียนเป็นตลาดเดียวจะไม่เชื่อมั่นในอาเซียนพอสมควร และจะเป็นความมิชอบของอาเซียน เพราะหากเวียดนามทำได้ประเทศอื่นก็จะทำได้เช่นกัน จึงไม่เป็นผลดีต่ออาเซียน ดังนั้น อาเซียนจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ร่วมกันต่อไป

ด้านประเทศไทยกระทรวงพาณิชย์  สมอ.มีการเจรจากับเวียดนามหลายเวที เพื่อขอให้เแก้ไขการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าดังกล่าว แต่เวียดนามนิ่งเฉยทุกเวทีการเจรจา ดังนั้น ไทยจะต้องมีกลไกอื่นดำเนินการ ส่วนจะฟ้องต่อดับเบิ้ลยูทีโอหรือไม่ก็ขึ้นกับกระทรวงพาณิชย์จะพิจารณา โดยอาจฟ้องดับเบิลยูทีโอ เช่น บราซิลฟ้องไทยเรื่องอุดหนุนอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน