อุบลราชธานี 8 พ.ค.- รอง สว.จร.สภ.ดอนมดแดง แจงภาพใบสั่งจากสมุดฉีกถูกโพสต์เฟซบุ๊ค เป็นแค่ใบแจ้งข้อหาให้นำไปจ่ายค่าปรับที่จุดตั้งโต๊ะของด่านตรวจ ยันไม่ใช่ใบสั่ง แต่เมื่อจ่ายแล้วจะมีใบเสร็จรับเงินอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินโครงการด่านครูจราจรเพิ่มทักษะวินัยจราจรแก่เยาวชนและประชาชน
ร.ต.อ.ธีรวัฒน์ นวลอินทร์ รองสารวัตรปราบปรามปฏิบัติหน้าที่รองหัวหน้าตำรวจจราจร สภ.ดอนมดแดง ชี้แจงกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊คโพสต์ข้อความและภาพใบสั่งจากสมุดฉีกทั่วไปที่ด่านบ้านยางกระเดา อ.ดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี ระบุว่า “ใช้ใบอนุญาตสิ้นอายุ จยย.100” ทำให้ชาวเน็ตแสดงความเห็นกันมากมายว่า ภาพดังกล่าวคงเป็นด่านกวดขันวินัยจราจรของชุดจราจรเมื่อช่วงสายวันที่ 7 พ.ค. เขตรอยต่ออำเภอดอนมดแดงกับอำเภอตระการพืชผล ซึ่งเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร สำหรับกระดาษขาวเป็นกระดาษเขียนข้อหาให้ผู้ทำผิดถูกสั่งปรับนำไปให้พนักงานสอบสวนที่ตั้งโต๊ะให้บริการอยู่บริเวณนั้น ซึ่งไม่ใช่ใบสั่ง เมื่อไปชำระเงินแล้ว ก็จะได้รับใบเสร็จอย่างเป็นทางการ สำหรับการออกใบสั่งจะเป็นกรณีผู้ถูกจับไม่พร้อมจะชำระเงิน หรือไม่ยอมรับข้อกล่าวหาก็จะได้รับการแจ้งข้อหาลงบนใบสั่งให้นำเงินมาชำระภายหลัง หรือมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสู้คดี
ร.ต.อ.ธีรวัฒน์ กล่าวว่า อำเภอดอนมดแดงเป็นอำเภอขนาดเล็ก ไม่มีแม้เทศบาล การจับข้อหาจราจรส่วนใหญ่ ไม่เน้นจับเรื่องค่าปรับมากนัก แต่ต้องการให้ผู้ใช้รถตระหนักถึงวินัยการขับขี่ ช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุทางถนนตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งในรอบ 1 สัปดาห์ สภ.ดอนมดแดง มีการตั้งด่านกวดขัดวินัยจราจรเพียง 3 วันเท่านั้น
ร.ต.อ.ธีรวัฒน์ ยังยืนยันว่า กรณีนี้ไม่มีการเรียกเก็บเงินที่ไม่ถูกต้อง เพราะหากทำเช่นนั้น ผู้ถูกจับคงนำภาพที่ทำไม่ถูกต้องมาลงในเฟสบุ๊คแล้ว เมื่อประชาชนมีความเคลือบแคลงสงสัย ต่อไปก็ต้องปรับปรุงการทำงาน โดยอาจต้องออกเป็นใบสั่งให้ไปเลย ส่วนจะดำเนินการอะไรกับผู้โพสต์ภาพหรือไม่ เบื้องต้นต้องดูว่าการโพสต์ดังกล่าว ทำความเสียหายเกิดขึ้นหรือไม่ และผู้บังคับบัญชาจะสั่งการอย่างไร รวมทั้งก็ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้โพสต์ เพราะภาพถูกลบไปหมดแล้ว หลังนำขึ้นโพสต์ได้ไม่กี่ชั่วโมง
ด้าน พ.ต.ท.ลัทธวัฒน์ เพ็งชัย สารวัตรปราบปรามหัวหน้างานจราจร กล่าวว่า ขณะนี้ สภ.ดอนมดแดง ได้ทำเรื่องเสนอขอทำโครงการด่านครูจราจร โดยจะเน้นให้เยาวชนหรือประชาชนที่ถูกจับในข้อหาทำผิด พ.ร.บ.จราจร ที่สามารถใช้วิธีว่ากล่าวตักเตือนแทนการเสียค่าปรับมาเข้าร่วมโครงการ เพื่ออบรมให้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง ซึ่งจะเริ่มโครงการได้ปลายเดือน พ.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย