ก.คลัง 7 พ.ค. – คลังเพิ่มช่องทางบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ผ่านสถาบันการเงินของรัฐ หน่วยงานรัฐประจำจังหวัด และสถานทูตไทยในต่างประเทศ
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังพิจารณาเพิ่มช่องทางรับแจ้งบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตรงตามเป้าหมายของรัฐบาลและเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะแจ้งบริจาคใน กทม.สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนไปแจ้งบริจาคได้ที่สถาบันการเงินของรัฐ 7 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
ส่วนผู้ที่ประสงค์จะแจ้งบริจาคในต่างจังหวัดสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนไปแจ้งบริจาคได้ที่หน่วยงานของคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ประกอบด้วย สำนักงานคลังจังหวัด สำนักงานสรรพากรพื้นที่ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ ด่านศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยภาคและจังหวัด และสถาบันการเงินของรัฐทั้ง 7 แห่งดังกล่าวข้างต้น และผู้ที่ประสงค์จะแจ้งบริจาคในต่างประเทศสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชน หรือ Passport ไปแจ้งบริจาคได้ที่สถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศ และในกรณีที่มอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนให้นำหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจมาด้วย
ทั้งนี้ หน่วยงานของ คบจ. และสถาบันการเงินของรัฐใน กทม.จะสามารถเริ่มดำเนินการได้วันที่ 15 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป ส่วนในต่างประเทศซึ่งดำเนินการโดยสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป .-สำนักข่าวไทย