ลุ้นรักษาการได้ยินเด็กหญิงฝาแฝดตาสีฟ้า ผู้ใจบุญแห่บริจาค

นครพนม 7 พ.ย. – ผู้ใจบุญแห่ช่วยเหลือเด็กหญิงฝาแฝด อายุ 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า ขณะที่โรงเรียนโสตศึกษา พร้อมดูแลด้านการศึกษา ยืนยันเด็กทั้ง 2 คน พัฒนาการดีทุกอย่าง แค่มีปัญหาการได้ยิน พูดไม่ได้ ต้องสื่อสารภาษามือ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลเปิดบัญชีกองทุนช่วยเหลือตรง ให้ครอบครัว


ความคืบหน้าการช่วยเหลือ “น้องแก้ม” อายุ 9 ขวบ แฝดคนพี่ที่มีดวงตาสีฟ้าสองข้าง และแฝดคนน้อง คือ “น้องกิ๊ฟ” อายุ 9 ขวบ ทั้งคู่มีจุดเด่นคือดวงตาสีฟ้า สามารถมองเห็นได้ปกติ แต่พิการทางหู ไม่ได้ยินเสียง ทำให้ไม่สามารถพูดได้ หลังมีข่าวเผยแพร่ออกไปถึงปัญหาครอบครัวยากจน แม่คือ นางคำ อายุ 42 ปี ชาว สปป ลาว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว อาชีพรับจ้างขายแตงโมที่ตลาดบ้านต้อง ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม กับพี่สาวที่มีสามีคนไทย ส่วนสาเหตุดวงตาสีฟ้านั้นเกิดจากกลุ่มอาการวาร์เดนเบิร์ก ซินโดรม (Waardenburg syndrome) ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบยาก

โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ใจบุญ ต่างติดต่อเพื่อการช่วยเหลือทุกด้าน และจะมีการบริจาคเครื่องช่วยฟังเสียง ส่วนการตรวจรักษาในระยะยาวจะส่งตัวไปตรวจรักษาอาการเบื้องต้นที่โรงพยาบาลนครพนม เพื่อหาแนวทางดูแลรักษาเกี่ยวกับปัญหาการได้ยิน จะได้ส่งผลดีต่อการพัฒนาชีวิตและการศึกษาในอนาคต ผู้ใจบุญสามารถบริจาคช่วยเหลือผ่านบัญชีกองทุนช่วยเหลือ ชื่อบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขา อ.ธาตุพนม บัญชีนี้เพื่อช่วยเหลือเด็กฝาแฝดดวงตาสีฟ้า บัญชีประเภท ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 1973592323


ด้านนายชยุตพงศ์ ปูชนียะพงศ์ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครพนม ได้นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือตามสิทธิ พร้อมยืนยันปัจจุบันเด็กทั้ง 2 คน ได้รับสวัสดิการคนพิการ คนละ 1,000 บาทต่อเดือน และจะมีการตรวจสอบดูแลตามสิทธิสงเคราะห์ครอบครัวยากจน และประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลทุกด้าน ไปจนถึงการหารือช่วยเหลือดูแลสงเคราะห์ด้านที่พักอาศัย

ส่วน ดร.สุบิน ประสพบัว ผู้อำนวยการโสตศึกษา จ.มุกดาหาร เปิดเผยว่า เด็กฝาแฝดทั้ง 2 คน ปัจจุบันกำลังเรียนชั้น ป.2 และมีสิทธิได้รับการศึกษาฟรีถึงชั้น ม.6 การดูแลที่ผ่านมาพบว่าเด็กมีการพัฒนาการทางสมองดี สามารถดูแลตัวเองได้ เข้ากับเพื่อนได้ดีตามปกติ มีนิสัยร่าเริง สนุกสนาน ทำกิจกรรมได้ทุกอย่าง แต่มีปัญหาการได้ยิน ไม่สามารถพูดได้ หากมีการดูแลตรวจรักษาทางการแพทย์ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการพัฒนาการเด็ก ปัจจุบันมีการสื่อสารทางภาษามือ ยืนยันทางโรงเรียนพร้อมดูแลตามสิทธิทุกด้าน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”