กทม.2 พ.ค.- สคบ.เดินหน้าทำความเข้าใจผู้ประกอบการหอพัก ก็บค่าน้ำ ค่าไฟ ตามอัตราการไฟฟ้าและการประปา ฟากหอหักขอเวลาปรับตัวพร้อมขอความเห็นใจในระเบียบบางข้อ
นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคหรือ สคบ. นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่คุยผู้ประกอบการหอพักที่ “เกียรติพงษ์ แมนชั่น “เลขที่ 46 เป็นหอพักสูง 7 ชั้น 155 ห้อง ซอยอินทามระ 33 แยก 2 ถ.สุทธิสารวินิจฉัย หลัง สคบ.ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่องธุรกิจให้เช่าอาคารที่อยู่อาศัยเป็นธุรกิจควบคุมสัญญาพ.ศ. 2561 มีผล 1 พฤษภาคม 2561 มีสาระสำคัญ เช่น ต้องจัดเก็บค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้า ตามอัตราที่การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค เรียกเก็บกับบ้านเรือนประชาชน และการเรียกเก็บค่าเช่าล่วงหน้าและค่าปะกัน ต้องไม่เกิน 1 เดือน
นายพิฆเนศ กล่าวว่า ได้ชี้แจงประกาศดังกล่าวให้ผู้ประกอบการทราบอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมเรียกดูอัตราการจัดเก็บค่าน้ำค่าไฟและค่าบริการอื่น ซึ่งจากการตรวจสอบพบ การเก็บค่าน้ำค่าไฟหอพัก ได้ปรับอัตราลงตามระเบียบ แต่ยังมีบางหอพัก เรียกเก็บค่าบำรุงรักษามิเตอร์ไฟ และน้ำเพิ่ม ต่างหาก ซึ่งจะพิจารณาว่า เป็นการเก็บที่สมเหตุสมผลหรือไม่และเหตุใดจึงเรียกเก็บเพิ่ม โดย สคบ.จะให้เวลาผู้ประกอบการ ปรับตัวแก้ไขสัญญาค่าเช่าและอัตราค่าใช้จ่ายอื่น ในระยะเวลาที่เหมาะสม จากนั้นหากมีการสุ่มตรวจ หอพักใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้านนายเลิศชาย เกตุพัตร เจ้าหน้าที่หอพัก กล่วว่า หลังทราบประกาศ อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมในการจัดเก็บค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลางและอื่นๆ ให้เป็นไปตามระเบียบ สคบ. เบื้องต้นจะปรับลด เก็บค่าไฟในอัตรา 4.50 บาทต่อหน่วย ค่าน้ำ 17 บาทต่อหน่วย จากเดิมเก็บค่าไฟ 7 บาทต่อหน่วย ค่าน้ำเหมาจ่าย 200 บาทต่อ 10 หน่วย ยืนยันจะพยายามทำให้ถูกต้องตามระเบียบ แต่อยากให้ สคบ.อะลุ้มอล่วยเรื่องเงินมัดจำ ค่าประกันห้องล่วงหน้า 1 เดือน จากเดิมเก็บ 3 เดือน เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้เช่ามักค้างค่าเช่าห้องหลายเดือน บางรายไม่จ่ายและขนข้าวของหนี ซึ่งเงินประกันจะมาชดเชยในส่วนนี้ แต่หากผู้เช่าห้องรายใดปฏิบัติตามระเบียบเมื่อย้ายออกก็จะได้ค่าประกันคืน.-สำนักข่าวไทย
