ปภ.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย 30 จังหวัด

ปภ. 28 เม.ย.-ปภ.รายงานพบจังหวัดได้รับผลกระทบจากวาตภัยตั้งแต่วันที่ 23 – 28 เมษายน 2561จำนวน  30 จังหวัด พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกด้าน 


นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 23 – 28 เมษายน 2561 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยรวม 30 จังหวัด 77 อำเภอ 157 ตำบล 357 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,098 หลังคาเรือน 7,364 คน ผู้เสียชีวิต 1 ราย แยกเป็นภาคเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำพูน และอำเภอบ้านโฮ่ง รวม 6 ตำบล 19 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 439 หลังพะเยา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา และอำเภอดอกคำใต้ รวม 4 ตำบล 24 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 437 หลัง 

จ.กำแพงเพชร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคลองลาน อำเภอเมืองกำแพงเพชร อำเภอปางศิลาทอง และอำเภอขาณุวลักษบุรี รวม 20 ตำบล 62 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 250 หลัง ลำปาง เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเถิน และอำเภอห้างฉัตร รวม 2 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 200 หลัง นครสวรรค์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเก้าเลี้ยว อำเภอไพศาลี อำเภอบรรพตพิสัย อำเภอชุมแสง และอำเภอชุมตาบง รวม 6 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 39 หลัง แพร่ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเด่นชัย อำเภอสูงเม่น และอำเภอลอง รวม 6 ตำบล 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 37 หลัง เชียงใหม่ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอฮอด อำเภอดอยหล่อ อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเต่า อำเภอฝาง และอำเภอแม่แจ่ม รวม 8 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 30 หลัง 


จ.พิจิตร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดงเจริญ อำเภอตะพานหิน และอำเภอเมืองพิจิตร รวม 4 ตำบล 8 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 63 หลัง น่าน เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเวียงสา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 7 หลัง ตาก เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอแม่สอด รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 5 หลัง เชียงราย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่ลาว อำเภอเมืองเชียงราย และอำเภอพาน รวม 6 ตำบล 13 หมู่บ้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกู่แก้ว อำเภอน้ำโสม อำเภอหนองหาน อำเภอศรีธาตุ อำเภอเมืองอุดรธานี รวม 14 ตำบล 57 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 724 หลัง 

จ.หนองคาย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองหนองคาย อำเภอท่าบ่อ อำเภอศรีเชียงใหม่ และอำเภอรัตนวาปี รวม 8 ตำบล 33 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 357 หลัง บึงกาฬ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีวิไล อำเภอ เซกา อำเภอบึงโขงหลง และอำเภอบุ่งคล้า รวม 7 ตำบล 17 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 71 หลัง ศรีสะเกษ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุนหาญ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอขุขันธ์ อำเภอปรางค์กู่ อำเภอภูสิงห์ อำเภอไพรบึง อำเภอโนนคูณ และอำเภอพยุห์ รวม 14 ตำบล 18 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 68 หลัง 

จ.อุบลราชธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอน้ำยืน รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 50 หลัง หนองบัวลำภู เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีบุญเรือง และอำเภอเมืองหนองบัวลำภู รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 40 หลังมุกดาหาร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอหว้านใหญ่ รวม 3 ตำบล 5 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 32 หลัง ขอนแก่น เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอแวงใหญ่ รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 31 หลัง เลย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าลี่ และอำเภอนาแห้ว รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 17 หลัง 


จ.บุรีรัมย์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอห้วยราช รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 7 หลัง สุรินทร์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอปราสาท รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 4 หลัง สกลนคร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอส่องดาว รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 3 หลัง มหาสารคาม เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอวาปีปทุม รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ภาคกลาง 5 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอหันคา รวม 11 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 96 หลัง ลพบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกเจริญ อำเภอชัยบาดาล อำเภอพัฒนานิคม รวม 9 ตำบล 12 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 63 หลัง อ่างทอง เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอโพธิ์ทอง รวม 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 51 หลัง อุทัยธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทัพทัน อำเภอสว่างอารมณ์ รวม 5 ตำบล 6 หมู่บ้านบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 4 หลัง 

จ.สมุทรสงคราม เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภออัมพวา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1 หลัง ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเวียงสระ  รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 5 หลัง ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดหน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมินและจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น