กรุงเทพฯ 22 เม.ย.-ระยะเวลา 9 เดือนที่คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจฯ ซึ่งมี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธานฯ ระดมความคิดเพื่อปฏิรูปแวดวงสีกากี หลายฝ่ายค่อนขอดว่าผลงานไม่เป็นรูปธรรม สำนักข่าวไทยสรุปเนื้อหามาให้ประชาชนพิจารณา
ตลอดระยะเวลา 9 เดือน นับตั้งแต่มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธานฯ วางกรอบดำเนินการให้แล้วเสร็จในวันที่ 1 เมษายน 2561 แต่คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวปิดงานเสร็จก่อนกำหนดเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
คณะกรรมการชุดนี้นอกจากมี พล.อ.บุญสร้าง เป็นประธาน ยังมีคณะอนุกรรมการฯ 6 คณะ ดูแลงานด้านต่างๆ เพื่อเดินหน้าปฏิรูปแวดวงสีกากีให้เด่นชัดมากขึ้น โดยที่ผ่านมา มีการประชุมมากกว่า 40 ครั้ง จนกระทั่งตกผลึกได้ข้อสรุปสำหรับการปฏิรูปแวดวงสีกากี แบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ 7 ข้อ เสนอปฏิรูปตำรวจที่ต้องผ่านการแก้ไขกฎหมาย และ 5 ข้อเสนออื่นๆ ที่สามารถปฏิรูปตำรวจได้โดยผ่านการบริหารในอำนาจทั่วไป
ข้อเสนอ 7 ข้อแรก ประกอบด้วย เสนอให้มีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.รูปแบบใหม่ โดยให้ ผบ.ตร.เสนอ 3 รายชื่อแคนดิเดต ก่อนให้ ก.ตร.พิจารณาเหลือ 1 รายชื่อ กระทั่งส่งให้นายกฯ เห็นชอบ, การเสนอพิจารณาบำเหน็จความชอบตามระบบคุณธรรมที่ชัดเจน, การกระจายอำนาจบูรณาการ ทั้งการบริหารบุคคล งบประมาณ และงานตำรวจ, การตั้งคณะกรรมการอิสระรับข้อร้องเรียน
การลดภารกิจรองของตำรวจและเปลี่ยนผ่านให้หน่วยราชการอื่นไปดูแล, การปรับโครงสร้างพนักงานสอบสวนที่เลื่อนไหลได้ แต่เปลี่ยนสายงานไม่ได้ ยกเว้นรองสารวัตร และให้หัวหน้าสถานีเป็นผู้รับผิดชอบสำนวน, ท้ายสุดคือการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น
ส่วน 5 ข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปแต่ไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมาย มีทั้งการพัฒนาการศึกษาตำรวจ, มีกำลังพลทางเลือก, จัดตั้งประชาคมเครือข่ายตำรวจ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพงานตำรวจด้านต่างๆ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อเสนอส่วนหนึ่งที่ตกผลึกจากคณะกรรมการฯ โดยเชื่อว่าประชาชนจะได้ประโยชน์ ทั้งการใช้กฎหมายของตำรวจจะมีประสิทธิภาพ อำนวยความยุติธรรม รวมถึงได้รับบริการจากตำรวจเพียงพอ.-สำนักข่าวไทย