นนทบุรี 9 เม.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์ยังคงมั่นใจแม้สงครามการค้าสหรัฐและจีนอาจจะเกิดขึ้นไทยจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่มีโอกาสส่งออกได้สูงในหลายรายการ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังร่วมประชุมทีมเศรษฐกิจกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยได้เชิญหน่วยงานต่าง ๆ มาหารือ เพื่อประเมินสถานการณ์ผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน โดยทุกฝ่ายจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มองว่าจะกระทบกับสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมในประเทศ โดยจะใช้เวที tifa หารือกับสหรัฐอเมริกาในกรณีดังกล่าว ซึ่งผลกระทบที่จะมีต่ออุตสาหกรรมแต่ละปีไทยส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมไปสหรัฐประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากรณีดังกล่าอาจจะกระทบไทยบ้างเล็กน้อย ซึ่งจะต้องติดตามและเฝ้าระวัง โดยเฉพาะไทยเป็นประเทศฐานการผลิตที่ส่งออกไปจีน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวเลขความเสียหาย แต่การที่สหรัฐมีมาตรการกับจีนอาจจะเป็นประโยชน์กับไทยบางรายการสินค้าที่สหรัฐไม่สามารถส่งออกได้ ซึ่งไทยควรใช้โอกาสนี้เปิดตลาด ซึ่งขณะนี้ได้มีการหารือเพื่อทำการศึกษาการเจาะตลาดไปจีนและสหรัฐ เพื่อเติบเต็มตัวเลขที่หายไปจากการตอบโต้ของสหรัฐและจีน
ทั้งนี้ หากมองในแง่ด้านบวกเชื่อว่าไทยเพิ่มส่วนแบ่งในสหรัฐได้ 300-1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกรณีการกีดกันทางการค้าระหว่าง 2 ชาติ โดยตลาดจีน ไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกรณีสหรัฐห้ามสินค้าจีนก็จะเป็นโอกาสของไทยที่จะส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐได้โดยตรง เช่น ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ และฮาร์ดิส และในแง่ลบ สินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐมาจีน หรือจีนไปสหรัฐอาจจะมีการทะลักไปยังตลาดอื่น ๆ ซึ่งไทยจะต้องเตรียมมาตรการและความพร้อมในการรับมือ
อย่างไรก็ตาม สงครามการค้าครั้งนี้ไทยจะต้องระมัดระวังและสร้างโอกาส ทั้งเรื่องการเจรจาและการบุกตลาด โดยไทยจะเร่งเสริมตลาดเมืองหลักและเมืองรองทั้งของจีนและสหรัฐ โดยไทยเตรียม 4 แนวทางในการป้องกันปัญหา ได้แก่ การเจรจาระหว่างไทย-จีน หากดำเนินการไม่สำเร็จไทยจะต้องตั้งรับ โดยการออกมาตรการปกป้องธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องในประเทศ ส่วนกรณีที่มีสินค้าเจรจาแล้วแต่ไม่สำเร็จและถูกกดดัน ไทยจะใช้มาตรการตอบโต้กลับหรือเสนอต่อองค์การการค้าโลก หรือ WTO ซึ่งระยะสั้นอาจจะกระทบต่อการค้าทั่วโลกที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ จะต้องมองลึกลงไปรายสินค้า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เรื่องเหล็กมองทั้งก้อนส่งออกกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่วนใหญ่เป็นท่อเหล็ก ดังนั้น แปลว่าไม่ได้สูญเสียเหล็กไปสหรัฐ หรือหายไปทั้งก้อน ดังนั้น จะต้องมองเป็นรายสินค้า ซึ่งจะต้องวิเคราะห์ให้ละเอียด จากนี้จะทำการบ้านเชิงลึกมากขึ้น เช่น ตลาดผลไม้ที่สหรัฐไม่สามารถส่งออกมาจีนได้ ก็จะต้องใช้โอกาสนี้บุกตลาด อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นมีสินค้า 50 รายการที่อยู่ในแวลูเชนที่มีการส่งออกไปจีน เบื้องต้นเชื่อว่าไทยจะยังรักษาเสถียรภาพทางการค้าไว้ได้ และเร็วเกินไทยที่จะมีการสรุปผลกระทบที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันพาณิชย์ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด และขณะนี้ยังเชื่อว่าภาคการส่งออกของไทยปีนี้น่าจะมีอัตราการส่งออกเป็นบวกไม่น้อยกว่าร้อยละ 8 แต่หากสถานการณ์รุนแรงก็คงต้องมีการทบทวนกันต่อไป. – สำนักข่าวไทย