จันทบุรี 8 เม.ย.-ชาวสวนจันทบุรีน้ำตาตก พายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำต้นทุเรียนหักโค่น ผลผลิตใกล้เก็บเกี่ยวกว่า 7 ตันร่วงหล่นเสียหาย มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านเขาลูกช้าง ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี หลังได้รับแจ้งเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มสวนผลไม้ ทำให้ต้นทุเรียนหักโค่น ผลผลิตทุเรียนหมอนทองแก่ใกล้เก็บเกี่ยวถูกแรงลมซัดปลิวร่วงหล่นได้รับความเสียหายกว่า 7 ตัน มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท พบพื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือสวนผลไม้ในตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ และอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี โดยพายุฤดูร้อนก่อให้เกิดพายุฝน ลมกระโชกแรง ส่งผลสวนผลไม้เสียหายโดยเฉพาะต้นทุเรียนโค่นล้ม ผลผลิตที่ใกล้เก็บเกี่ยวร่วงหล่นเสียหายจำนวนมาก
สวนผลไม้ของนายพิชิต ชนะสิทธิ์ อายุ 48 ปี ในตำบลทุ่งเบญจา เสียหายหนักที่สุด ต้นทุเรียนพันธ์หมอนทอง อายุกว่า 40 ปี สูงประมาณ 30 เมตร จำนวน 3 ต้น ถูกแรงลมพัดหักโค่นล้มแบบถอนรากถอนโคน แต่ละต้นมีผลผลิตทุเรียนแก่ใกล้เก็บเกี่ยวได้ในวันที่ 10 เม.ย. นี้ ต้นละประมาณ 150 ลูก ราคาขายเฉลี่ยตอนนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 130 บาท คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 234,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีผลผลิตทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ภายในสวนเนื้อที่กว่า 80 ไร่ และมีผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวได้ในเดือนนี้ ถูกกระแสลมแรงซัดลูกร่วงหล่นเสียหายอีก 7 ตัน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1 ล้านบาท
นายพิชิต เจ้าของสวนทุเรียน เปิดเผยว่าพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 18.00 น. เย็นวันที่ 6 เม.ย. ขณะเกิดเหตุมีพายุฝนฟ้าคะนอง จากนั้นมีกระแสลมพัดแรง ซึ่งกระแสลมมาจากช่องระหว่างเขาลูกช้าง โดยทิ้งระยะเวลา 5- 10 นาที กระแสลมแรงจึงสงบลง แต่ยังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ด้วยความวิตกกังวล จึงพาคนงานกระจายกันออกตรวจสอบความเสียหายในสวน จนพบต้นทุเรียนถูกแรงลมล้มหักโค่น ผลทุเรียนร่วงหล่นเสียหายจำนวนมากจึงได้ช่วยกันเร่งขนย้ายกลับมาไว้ที่บ้านแข่งกับสายฝนตลอดเกือบทั้งคืน และช่วงเช้าพาคนงานออกไปตรวจสอบและเก็บผลิตที่ยังหลงเหลือ เจ้าของสวนทุเรียน บอกอีกว่าผลผลิตทุเรียนหมอนทอง ที่ถูกลมพัดล่วงหล่นจำนวนกว่า 7 ตันนี้ มีอายุประมาณ 70 -80 วัน นับว่าเป็นทุเรียนแก่ใกล้จะเก็บขายได้ แต่ตนเองไม่ได้นำออกไปขาย แม้ว่าจะมีพ่อค้าหัวใส มาติดต่อขอซื้อถึงที่บ้านในราคาสูงเท่ากับทุเรียนปกติก็ตาม ทั้งนี้ด้วยจรรยาบรรณของชาวสวน จึงไม่ต้องการให้ทุเรียนเหล่านี้ออกไปสู่ตลาด ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อกลไกของราคา ซึ่งอาจทำให้ราคาผลผลิตมีราคาตกต่ำลง เพราะความเห็นแก่ตัวนำทุเรียนด้อยคุณภาพไปขายให้กับผู้บริโภค โดยทุเรียนหมอนทองทั้งหมด จะนำมาชุบน้ำยาป้องกันเชื้อรา ซึ่งเกิดกับทุเรียนที่มีหนามช้ำ จากนั้นจะนำมาป้ายน้ำยาเร่งสุก เมื่อทุเรียนสุกได้ที่จะทำการแกะเอาเนื้อสด มาเตรียมแปรรูปเป็นทุเรียนกวน ไว้แจกจ่ายให้กับญาติและคนรู้จักต่อไป.-สำนักข่าวไทย