ตรวจสอบน้ำมนต์มรณะ สาว 18 ดื่มแล้วช็อกตาย

ชัยภูมิ 2 เม.ย.-ตำรวจเร่งตรวจสอบกรณีพระ 2 รูป หลอกให้สาว วัย 18 ดื่มน้ำมนต์ ก่อนอาเจียน และชักเกร็ง เสียชีวิต ชาวบ้านเผยพระเคยโดนขับไล่ เพราะทำตัวไม่เหมาะสมหลายอย่าง


กรณีนายขาน เชิดจอหอ และนางดวงจิต คณาเขว้า สามีภรรยา ที่อาศัยอยู่ ตำบลเก่าย่าดี อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ พร้อมญาติพากันมาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ พ.ต.ท.คม  คุ้มโนนคร้อ รอง ผกก.สอบสวสภ.แก้งคร้อ เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา กล่าวหามีพระโอภาษ ศรีสง่า อายุ 41ปี และหลวงพ่อบุญ  หรือหลวงพ่อน้อยที่ชาวบ้านเรียกกัน พระลูกวัดวัดท่าเวอ ชัยภูมิ ที่อ้างตัวเป็นพระเกจิดัง มีวิชาคุณวิเศษว่าช่วยแก้มนต์ดำ ให้กับคนที่ถูกคุณไสย์เล่นงานได้  จนทำให้นางสาวสุพัก เชิดจอหอ บุตรสาววัย 18 ปีเสียชีวิต เพราะคำบอกเล่าของพระ 2 รูป คือ พระโอภาษ ศรีสง่า และพระน้อย ไม่ทราบฉายาหรือนามสกุลเดิม ที่บอกให้ลูกสาวเข้าพิธีแก้คุณไสยดื่มน้ำมนต์ที่พระกลุ่มนี้ทำขึ้น จนหมดจำนวนเต็ม 2 บาตรพระ ก่อนที่สาว18ปี จะเริ่มอาเจียนไม่หยุดล้มชักตัวเกร็งช็อคหมดสติเสียชีวิต ส่วนกลุ่มพระ2รูปดังกล่าวพร้อมญาติโยมต่างถิ่นอีก 3 คน ไม่ทราบชื่อนามสกุล พากันหลบหนีหายออกจากวัดฯ ทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฝ่ายปกครอง และตำรวจแกะรอยติดตามตัวกลุ่มพระ


วันนี้ พ.ต.ต.จาตุรนต์ ตระกูลปาน ผกก.สภ.แก้งคร้อ สั่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาหลักฐานในวัดอย่างละเอียด ก่อนหน้าที่จะมาก่อเรื่องพระโอภาษ ศรีสง่า และหลวงพ่อบุญฯ ซึ่งทั้งสองรูปเคยถูกชาวบ้านท่ามะไฟหวาน ขับไล่ออกจากวัดท่ามะไฟหวาน หนีไปอยู่จังหวัดเลยและกลับมาขออาศัยอยู่ในวัดร้างในหมู่บ้านท่าเว่อ ต่อมาชาวบ้านใช้กุญแจมาเปิดประตูศาลาวัดฯที่เกิดเหตุให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น พบกระติกน้ำมนต์ใบใหญ่ข้างในมีน้ำมนต์เกือบเต็ม พบน้ำมนที่ปลุกเสกบรรจุขวดในตู้เย็นจำนวนมาก รอบๆศาลายังพบโอ่งน้ำขนาดใหญ่จำนวนมาก มีน้ำอยู่เต็มทุกโอ่ง ยังพบร่องรอยประกอบอาหาร แต่ไม่พบว่าไม่มีผู้อาศัยในวัดข้าวของเครื่องใช้ถูกทิ้งจำนวนมาก


ชาวบ้านที่อยู่รอบๆ บอกว่าวัดแห่งนี้ไม่ได้เป็นวัดร้างเพียงแต่ไม่มีเจ้าอาวาส ที่ผ่านมามีสามเณรลีโอ จำวัดอยู่เพียง 1 รูปแต่ในช่วงเกิดเหตุได้เดินทางไปศึกษาธรรมมะต่างจังหวัดได้ประมาณ1เดือนแล้ว จนมีกลุ่มพระโอภาษ ศรีสง่า และหลวงพ่อบุญฯ กลับมาขออาศัยอยู่ในวัดร้างในหมู่บ้านท่าเว่อ ขณะที่เมื่อต้นปี 60 พระโล้น หรือ พระน้อย ถูกกลุ่มชาวบ้านหมู่ 10 บ้านท่ามะไฟหวาน ได้ขับไล่ให้ออกจากวัดหลังพบปฏิบัติตัวใช้วิชาอุตะริวิชาและทำตัวไม่เหมาะสมหลายๆอย่างจนชาวบ้านทนไม่ไหว จากนั้นทราบข่าวว่าพระโล้นหรือพระน้อย ที่ชาวบ้านเรียกกันได้หนีไปจำวัดอยู่ที่ จ.เลย นานนับปี  พอกลับมาในพื้นที่อีกครั้ง โดยมีพระอีกรูปเดินทางมาด้วยชื่อหลวงพ่อบุญ อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านท่าเว่อ ได้มาขออาศัยจำวัด เมื่อช่วงต้นเดือน ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ค่อยสนใจพระทั้ง 2 รูปนี้เท่าไหร่นัก ตอนเช้าๆพระทั้ง 2 รูป ออกบิณฑบาตรชาวบ้านในหมู่บ้านก็ไม่ค่อยใส่บาตรจนพระต้องออกไปบิณฑบาตรนอกหมู่บ้านถึงจะได้อาหาร

ด้าน พ.ต.ต.วิญญู พื้นหินลาด กล่าวว่า ตรวจสอบพื้นที่ในวัดอย่างละเอียดจนท.ตร.พบหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งเป็นถังน้ำมนต์ ซึ่งจะนำน้ำมนต์ที่ได้ส่งไปตรวจตามขั้นตอนอีกครั้ง พระอาจารย์ยุท สุ ตะ สี โล  เจ้าอาวาสวัดลาดสามัคคีธรรม ต.ท่ามะไฟหวาน  ที่อยู่พื้นที่เดียวกัน เปิดเผยว่ากรณีที่เกิดขึ้นปกติแล้วพระมีหลายสาย ไม่อยากมองภาพรวมพระจะเป็นเหมือนกันหมด ทางวัดเราเป็นวัดสายปฎิบัติ เหตุเกิดไปกินน้ำมนต์ตาย อาจเป็นบุญกรรมที่ก่อรวมกันแต่ปางก่อนก็เป็นได้  จึงไม่อยากให้ญาติโยมหลงงมงาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่

“ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาชัด 71 ล้านเป็นชื่อ “มาดามอ้อย”

“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาบอกชัด 71 ล้านบาท เป็นชื่อ “มาดามอ้อย” เปิด 3 รายชื่อให้เร่งตรวจสอบ หวั่นโยกย้ายทรัพย์สิน