ธากา 30 มี.ค.- อัยการบังกลาเทศเผยว่า มารดาเจ้าของตึกโรงงานสิ่งทอรานาพลาซาที่พังถล่มคร่าชีวิตคนไป 1,134 คนเมื่อปี 2556 ถูกตัดสินจำคุก 6 ปีและถูกยึดทรัพย์สินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย
อัยการปราบปรามการทุจริตเผยว่า ศาลพิเศษในกรุงธากาตัดสินเมื่อวานนี้ว่านางมอร์ซินา เบกุม ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 40 ในรานาพลาซา อาคารสูง 9 ชั้นชานกรุงธากามีความผิดและตัดสินโทษจำคุก 3 ปีในข้อหาแจ้งรายงานทรัพย์สินเท็จและปลอมแปลงต่อคณะกรรมการปราบปรามการทุจริต และโทษจำคุกอีก 3 ปีในข้อหาได้ทรัพย์สิน 66 ล้านตากา (ราว 25 ล้านบาท) โดยไม่สามารถแจ้งที่มาได้ พร้อมกับสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย นางเบกุมซึ่งมีอายุราว 60 ปี เป็นมารดาของนายโซเฮล รานา เจ้าของรานาพลาซาที่ถูกศาลเดียวกันตัดสินจำคุก 3 ปีข้อหาไม่แจ้งทรัพย์สินต่อคณะกรรมการปราบปรามการทุจริต
นายรานาอายุราว 40 ปี ถูกจับกุมขณะพยายามหนีข้ามชายแดนเข้าไปในอินเดีย หลังจากรานาพลาซาพังถล่มเมื่อวันที่ 24 เมษายนได้เพียงไม่กี่วัน เขากลายเป็นบุคคลที่ถูกชาวบังกลาเทศเกลียดชัง เพราะผู้รอดชีวิตเล่าว่าถูกบังคับให้ทำงานในอาคารหลังนั้นทั้งที่มีคนเตือนเรื่องผนังอาคารมีรอยร้าว เขาและสมาชิกครอบครัวบางคนถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม นอกจากนี้ยังถูกตั้งข้อหาร่วมกับจำเลยอีก 17 คนว่าละเมิดระเบียบการก่อสร้างจากการต่อเติมอาคาร 6 ชั้นให้กลายเป็น 9 ชั้น
โศกนาฏกรรมที่รานาพลาซาส่งผลให้เกิดการปฏิรูปภาคสิ่งทอบังกลาเทศครั้งใหญ่ เช่น การตรวจสอบความปลอดภัย การขึ้นค่าจ้างให้แรงงาน 4 ล้านคนส่วนใหญ่เป็นสตรี บังกลาเทศเป็นผู้ส่งออกสิ่งทอใหญ่อันดับสองของโลกรองจากจีน อุตสาหกรรมนี้มีมูลค่าเกือบ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 936,000 ล้านบาท).- สำนักข่าวไทย