“สมคิด” เร่งรัฐวิสาหกิจลงทุนบิ๊กดาต้า

ก.คลัง 21 มี.ค. – “สมคิด” เร่งรัฐวิสาหกิจลงทุนโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีบิ๊กดาต้า เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 61 หลังเครื่องชี้การลงทุนรัฐวิสาหกิจ 2 เดือนแรกขยายตัวสูงถึงร้อยละ 47   

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์  รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมร่วมผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม ทุกองค์กรและพัฒนาบุคลากรให้รองรับการพัฒนาเทคโนโลยี   โดยเฉพาะการลงทุนด้านบิ๊กดาต้า เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลหลายหน่วยงานสอดคล้องนโยบายรัฐบาล ในการปฏิรูปเศรษฐกิจดิจิทัล 

ส่วนโครงการลทุนของรัฐวิสาหกิจควรเร่งตามแผนที่เสนอมา ไม่ใช่รอเบิกจ่ายไตรมาส 3-4 ของปี  ควรเริ่มแผนลงทุนตั้งแต่ต้นปีงบประมาณไม่ต้องรอตกท้องช้างแล้วเบิกจ่ายไม่ทันโดยเฉพาะการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)  หรือ ทอท. บริษัท การบินไทย  จำกัด (มหาชน) ในส่วนของ บมจ.ปตท.มอบให้ศึกษาแผนการลงทุนในประเทศที่สอดคล้องกับรัฐบาล จากเดิมมุ่งเน้นลงทุนต่างประเทศ

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)  กล่าวว่า กรอบการลงทุนของรัฐวิสาหกิจปี 2561 ที่ สคร.กำกับดูแลสูงถึง 515,114 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 49.7 จากปี 2560 โดยเครื่องชี้การลงทุนรัฐวิสาหกิจในช่วง 2 เดือนของปี 2561 (ม.ค. – ก.พ.) ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 47 ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจในปี 2561 ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจสะสมในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค.60 – ก.พ.61) เท่ากับ 91,686 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 141 ของแผนการเบิกจ่ายสะสม โดยเป็นผลมาจากการเร่งลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่ เช่น ปตท. รฟท. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการบินไทย

นายเอกนิติ กล่าวว่า เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2561 ตามเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รองนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการเร่งรัดการก่อหนี้ผูกพันปี 2561 ให้เสร็จโดยเร็ว  ปรับปรุงแผนและประมาณการเบิกจ่ายงบลงทุนให้สะท้อนกับความสามารถในการเบิกจ่ายได้ตามจริง โดยให้เน้นการเบิกจ่ายไตรมาส 2 และ 3 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจที่ประหยัดงบประมาณได้จากการจัดซื้อจัดจ้างพิจารณาการนำเงินไปลงทุนในโครงการอื่นที่มีความสำคัญและเร่งด่วนเพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาล  พร้อมเร่งปรับปรุงกรอบการลงทุนให้เสร็จภายในเดือนเมษายน 2561 และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 และรายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนเป็นรายเดือนและรายงานการก่อหนี้ผูกพันให้ สคร.ภายในทุกวันที่ 5 ของเดือน เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560

สำหรับคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจให้นำนโยบายทั้ง 5 ข้อ ไปกำกับให้ผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจดำเนินการอย่างเคร่งครัด รวมทั้งกำกับดูแลการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย และพิจารณากำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายของการเบิกจ่ายงบลงทุนในการประเมินผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ  ให้รัฐวิสาหกิจเร่งดำเนินการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการจัดทำฐานข้อมูล (Big Data) เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ (Data Analytic) และสามารถใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลดังกล่าวร่วมกันระหว่างรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งเตรียมความพร้อมบุคลากรในทุกระดับให้มีความรู้และสมรรถนะ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่รวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย