กรุงเทพฯ 19 มี.ค.- ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานแกนนำ กปปส.ใน8ข้อหา กรณีร่วมกันชุมนุมปิดกรุงเทพมหานครปี 56
อดีตแกนนำ กปปส.รวม 23 คน อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ,นายถาวร เสนเนียม, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ,นายวิทยา แก้วภราดัย , นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ฯลฯ เดินทางมาที่ศาลอาญา ตามนัดตรวจพยานหลักฐาน ในคดีที่อัยการคดีพิเศษ ฟ้องในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ ร่วมกันก่อการร้าย และข้อหาอื่นๆรวม 8 ข้อหา จากกรณีที่ร่วมกันชุมนุมปิดกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2556 โดยวันนี้ศาลได้นัดแกนนำที่อัยการส่งฟ้องชุดแรกและชุดที่สอง รวม 23 คน มาตรวจพยานหลักฐานในคดี
เบื้องต้น ทนายจำเลย ขอยื่นบัญชีพยานเพื่อขอนำสืบกว่า 30 ปาก บัญชีเอกสาร 13 แฟ้ม และยื่นคัดค้าน บัญชีพยานฝ่ายโจทย์ เนื่องจาก ไม่ได้มีการยื่นตามกรอบเวลาล่วงหน้า 7 วัน นอกจากนี้ ยังขอให้ศาล มีการแยกการพิจารณาของจำเลยแต่ละคน เพราะลักษณะะความผิดที่เกิดขึ้นแตกต่างกันออกไป
ขณะที่ อัยการ ในฐานะทนายโจทย์ขอ เลื่อนนัดตรวจหลักฐานออกไป โดยศาลอนุญาตตามคำร้องของอัยการและนัดตรวจพยานหลักฐานครั้งต่อไป วันที่ 25 มิถุนายน นี้ โดยศาลขอให้ทนายโจทย์และจำเลย กำหนดประเด็นพยานที่จะนำสืบให้มีความชัดเจน ว่าพยานแต่ละบุคคลเกี่ยวข้องกับจำเลยคนใด
ด้าน นายสุเทพ ยืนยันปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยระบุว่าที่ร่วมกันชุมนุมในปี 2556 ไม่ได้คิดร้ายกับใคร และเป็นการทำเพื่อประเทศชาติ แต่ในวันนี้จะยื่นขอความเป็นธรรมกับศาล ให้อัยการถอนฟ้อง และให้อัยการฟ้องเฉพาะแกนนำหลัก 9 คน ตามข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ และก่อการร้ายไปก่อน ส่วนจำเลยที่เหลือ ขอให้ฟ้องตามความผิดที่ได้กระทำไป เช่น บุคคลที่ขัดขวางการเลือกตั้ง หรือ บุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการ เนื่องจากขณะนี้อัยการสั่งฟ้องเกือบทุกคนในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ และร่วมกันก่อการร้าย ทั้งที่พฤติกรรมที่กระทำไม่เข้าข่ายและเห็นว่าอัยการไม่ได้แยกแยะ กลุ่มผู้ที่กระทำความผิด และไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถในกระบวนการยุติธรรม ที่ถูกต้อง แต่เป็นการฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวนที่ได้ส่งสำนวนมาให้
สำหรับคดีนี้มีจำเลยที่อัยการสั่งฟ้องคดีแล้วประมาณ 50 คน สั่งฟ้องไปแล้ว 23 คน ส่วนอีก 27 คน ขณะนี้ยังขอเลื่อนสั่งฟ้องคดี และมีบางส่วนที่พนักงานสอบสวนยังทำสำนวนไม่แล้วเสร็จ และยังไม่ส่งมาให้อัยการพิจารณา.-สำนักข่าวไทย