กทม.19 มี.ค.-ผอ.เขตประเวศ เผยกรณีผู้ค้าเลี่ยงขายของใกล้บ้านป้าทุบรถ ขยับไปขายในพื้นที่เอกชน ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เบื้องต้นว่ากล่าวตักเตือนแล้ว หากพบอีกสั่งปรับทันที 2,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเฟซบุ๊กส่วนตัวของหลานสาวบ้านป้าทุบรถ ที่อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านเสรีวิลล่า เขตประเวศ โพสต์ภาพพร้อมข้อความช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพบตลาดกลับมาอีกแล้วนั้น ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่สำรวจจุดเกิดเหตุ พบเป็นพื้นที่ว่างเปล่าของเอกชน และไม่พบผู้ค้าแต่อย่างใด มีเพียงอุปกรณ์ทำมาหากินที่นำมาเก็บไว้
ขณะที่บรรยากาศบริเวณหน้าสวนหลวง ร.9 ยังคงมีรั้วเหล็กวางกั้น ไม่ให้ ผู้ค้าขายของ พร้อมติดป้าย “ห้ามจำหน่ายสินค้า หรือตั้งวางสิ่งใดๆ ในที่สาธารณะ ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 2,000 บาท”
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เทศกิจ เขตประเวศ เล่าว่า ภาพที่ปรากฎเป็นช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่มีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ห้ามผู้ค้า ขายของบริเวณพื้นที่สาธารณะ จนทำให้บรรดาผู้ค้ากว่า 20 ราย ขับรถยนต์ขยับเข้าไปเปิดท้ายขายของในพื้นที่เอกชน ตนจึงได้มีการว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว แต่ไม่อาจขับไล่ผู้ค้าออกจากพื้นที่ของเอกชนได้
ทางด้านนายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการว่ากล่าวตักเตือนมาโดยตลอด เพราะถือว่าเป็นความผิดครั้งแรก หลังจากนี้หากพบผู้ค้า ขายของบนพื้นที่สาธารณะ หรือพื้นที่ของเอกชน เจ้าหน้าที่รัฐบังคับใช้อำนาจตามกฎหมาย สั่งปรับทันทีไม่เกิน 2,000 บาท ภายใต้พ.ร.บ.การสาธารณสุข 2535 โดยในพื้นที่เอกชนได้สั่งให้ติดป้ายประกาศห้ามจำหน่ายสินค้า พร้อมประสานกับเจ้าของที่ให้รับทราบ
ผู้อำนวยการเขตประเวศ กล่าวอีกว่า สำหรับการดูแลความสงบเรียบร้อย เขตได้ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจแบ่งเป็น 2 ผลัด ผลัดละ 8 นาย และทีมตระเวนช่วงยามวิกาลอีก 4 นาย เพื่อกวดขันห้ามผู้ค้าขายของบริเวณนี้เด็ดขาด อย่างไรก็ตามทางเขตได้จัดหาพื้นที่ไว้รอบรับผู้ค้าแล้ว 4 แห่ง ซึ่งรองรับได้กว่า 2,000 รายและขณะนี้มีผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการสั่งปิดตลาด 5 แห่ง มาลงชื่อไว้เกือบ 50 ราย โดยส่วนใหญ่แจ้งความประสงค์ ที่จะทำการค้าบริเวณฝั่งตรงข้าม ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่า โดยได้รับการอนุญาตจัดตั้งเป็นตลาดประเภทที่ 2 คือไม่มีโครงสร้าง คาดจะเริ่มเปิดตลาดแห่งนี้ ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ เชื่อว่า จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ค้า มีที่ทำมาหากิน ที่ถูกต้องตามกฎหมาย .-สำนักข่าวไทย