กทม.ลงพื้นที่ปรับภูมิทัศน์ 5 จุดจัดระเบียบทางเท้า

กทม.4 ต.ค.-กทม.ลงพื้นที่ปรับภูมิทัศน์หลังจัดระเบียบเเผงค้า 5 จุดใหญ่ในกรุงเทพ อนุสาวรีย์ชัยฯ ประตูน้ำ ราชประสงค์ สีลม สยาม ท่ามกลางเสียงต่อต้านของผู้ค้าจำนวนมาก


ภาพข่าววัลลภจัดระเบียบทางเท้า (3)

นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะเจ้าหน้าที่  ตำรวจ  เทศกิจ ลงพื้นที่ปฏิบัติการทำความสะอาด ปรับภูมิทัศน์ด้วยการทาสีขาวแดง ริมขอบทางเท้า ล้างถนน ตัดกิ่งไม้ ภายหลัง กทม.เข้าจัดระเบียบห้ามขายสินค้าบนทางเท้า  5 จุดใหญ่ในกรุงเทพฯ ได้แก่ บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สีลม ประตูน้ำ สยามและราชประสงค์ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังปรับภูมิทัศน์อยู่นั้น ผู้ค้าย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ ที่ได้รับผลกระทบ รวมตัวกันถือป้ายระบุข้อความไม่ยอมย้ายออกไป พร้อมส่งเสียงเรียกร้องความเป็นธรรม และแสดงความไม่พอใจ โดยมีเจ้าหน้าที่เทศกิจคอยห้ามไว้ตลอด


 

นางขวัญเรือน พงษ์เจริญ แม่ค้าขายข้าวแกง อายุ 34 ปี หนึ่งในผู้ค้าที่ปัก หลักประท้วง กล่าวว่า เหตุที่ต้องมารวมตัวกันวันนี้ไม่ใช่ว่าไม่ยอมย้ายออก แต่ต้องการขอยืดเวลาการจัดระเบียบออกไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากเพิ่งได้รับหนังสือประกาศจากทางสำนักงานเขตพญาไทว่า ให้ย้ายออกจากบริเวณดังกล่าวเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา  ซึ่งเวลาเพียง  5วัน ผู้ค้าซึ่งส่วนใหญ่ขายของมากว่า 10 ปีเตรียมรับกับความเปลี่ยนแปลงไม่ทันและไม่รู้ว่าจะไปขายที่ไหน เพราะที่ใหม่ที่ทาง กทม.บอกว่าจัดไว้ให้ อยู่บริเวณใต้ทางด่วนใกล้จุดเดิม ก็เข้าไปขายไม่ได้ เพราะยังไม่ได้รับอนุญาตจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

ภาพข่าววัลลภจัดระเบียบทางเท้า (2)


ด้านนายวัลลภ ยืนยันว่ากทม.ไม่ขยายเวลาออกไปแน่นอนเพราะที่ผ่านมา ผู้ค้าทุกคนรับทราบดีอยู่แล้วว่าพื้นที่ดังกล่าวต้องถูกจัดระเบียบและที่สำคัญ กทม.ได้ให้ข้อมูลการจัดระเบียบผู้ค้าบนทางมาตลอด ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยืดเวลา เพื่อให้ผู้ค้าขายของต่อ เพราะตามกฎหมายก็ระบุแล้วว่า ทางเท้าใช้สำหรับสัญจร ไม่ใช่ขายของ หากกทม.ให้ขายก็ถือว่าทำผิดกฎหมาย และถูกฟ้อง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเดินหน้าจัดระเบียบเพื่อคืนทางเท้าให้สาธารณะ

 

ทั้งนี้ จากการสำรวจของทีมข่าวตามจุดที่ถูกจัดระเบียบพบว่า นอกจากจุดอนุสาวรีย์ชัยฯ ที่มีกลุ่มผู้ค้ารวมตัวต่อต้านการจัดระเบียบแล้ว ผู้ค้าที่สยามต่างก็ถือป้ายไม่ยอมย้ายออกเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่าสถานที่แถวพงษ์พระรามที่เตรียมไว้ให้ ไม่เหมาะสมเพราะมืด เปลี่ยวไม่มีรถเมล์ผ่านขอขายจนกว่าจะมีที่รองรับที่เหมาะสม ไม่ใช่ให้หยุดขายรอพื้นที่ใหม่ที่กทม.จัดให้

 

ขณะที่ย่านประตูน้ำสงบเรียบร้อยไม่ออกมาต่อต้าน  เนื่องจากผู้ค้าส่วนใหญ่มองว่าการจัดระเบียบผู้ค้าบนทางเท้า เป็นเรื่องที่ควรทำ เพราะผู้ค้าประจำที่เช่ารายเดือน เดือนละหลักแสน ต่างได้รับความเดือดร้อน เพราะถูกกลุ่มผู้ค้าหาบเร่ ขายของตัดราคาแย่งลูกค้าและสร้างความรำคาญให้ กับคนที่สัญจรไปมา ซึ่งพอจัดระเบียบถนนหน้าร้านก็โล่งขึ้น และขายของดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย