กรุงเทพฯ 6 มี.ค.-วันนี้ ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ เหตุสัญญาการก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้รัฐไม่ต้องจ่ายค่าปรับเกือบหมื่นล้านบาท
การบอกเลิกสัญญาว่าจ้างโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน สมุทรปราการ หลังพบมีการให้ซื้อที่ดินโดยมิชอบเมื่อ 15 ปีก่อน เป็นที่มาให้กรมควบคุมมลพิษต้องจ่ายค่าชดเชยให้ผู้รับเหมาโครงการกลุ่มกิจการร่วมค้ากว่า 9,600 ล้านบาท ตามคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการ
ล่าสุด ศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดดังกล่าว ทำให้รัฐไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเกือบหมื่นล้านบาท เนื่องจากมีหลักฐานใหม่ เป็นคำพิพากษาของศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเมื่อปี 58 ที่สั่งจำคุกนายปกิต กิระวานิช อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายศิริธัญญ์ ไพโรจน์บริบูรณ์ อดีตรองอธิบดี และนางยุวรี อินนา อดีต ผอ.ในกรมควบคุมมลพิษ คนละ 20 ปี ฐานใช้อำนาจโดยทุจริต ร่วมกันเอื้อประโยชน์ให้เอกชนได้รับคัดเลือกเข้าทำสัญญา และเพิ่มวงเงินงบประมาณก่อสร้างโครงการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามที่กระทรวงการคลังและกรมควบคุมมลพิษยื่นขอรื้อคดีใหม่เมื่อกลางปี 59
ชาวบ้านที่เคยคัดค้านโครงการนี้ต่างดีใจ ที่คำตัดสินของศาลเป็นชัยชนะของรัฐและประชาชน ไม่ต้องนำเงินภาษีไปจ่ายให้เอกชน และเรียกร้องให้รัฐยกเลิกมติ ครม.ที่เคยอนุมัติจ่ายค่าชดเชยให้กลุ่มกิจการร่วมค้าโดยเร็ว
ด้านอดีตที่ปรึกษากฎหมายและทนายความของกรมควบคุมมลพิษขอบคุณที่ศาลวินิจฉัยอย่างละเอียด มองในมุมกว้าง และนำหลักฐานในคดีอาญาไปประกอบการพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยถูกให้ความสำคัญ
ขณะที่ นายประวิตร บุญเทียม โฆษกศาลปกครอง บอกว่า ผู้คัดค้านสามารถร้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน และแนะให้กรมควบคุมมลพิษยื่นคำร้ององค์คณะคดีเดิมว่า มีข้อเท็จจริงใหม่ตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เพื่อให้วินิจฉัยว่าจะงดการบังคับคดีต่อไปหรือไม่ ซึ่งหากคู่ความไม่ยื่นอุทธรณ์ คดีจะถือว่าสิ้นสุดรัฐไม่ต้องจ่ายค่าโง่เกือบหมื่นล้าน
บ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ซึ่งเจตนาจะให้เป็นโครงการใหญ่ที่สุดในอาเซียน มูลค่ากว่า 23,000 ล้านบาท ต้องยุติการก่อสร้างไปตั้งแต่ปี 46 วันนี้ที่นี่ถูกปล่อยทิ้งร้าง ท่ามกลางป่าชายเลนที่ขึ้นสลับกับสิ่งก่อสร้างบนเนื้อที่เกือบ 2,000 ไร่ และดำเนินการต่อไม่ได้ จากการฟ้องร้องเป็นคดีความทุจริตของนักการเมือง ข้าราชการ และเอกชน มากกว่า 10 คดี.-สำนักข่าวไทย
ชมผ่านยูทูบ