บุรีรัมย์ 15 ก.พ.-สมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึก จ.บุรีรัมย์ เรียกร้องให้ยุบสมาคมฯ หลังถูกเบี้ยวเงินค่าจัดการศพ พร้อมเดินหน้าเอาผิด เตรียมยื่นร้อง ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินคณะกรรมการฯ เชื่อมีการทุจริต
สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึก จ.บุรีรัมย์ ได้จัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2561 เป็นกรณีพิเศษ หลังสมาชิกร้องเรียนถูกเบี้ยวเงินค่าจัดการศพตั้งแต่ปี 2559 – 2560 มีสมาชิกเกือบ 1,000 คนเข้าร่วมประชุม โดยมีมติให้สมาคมคืนสิทธิ์ให้กับสมาชิกกว่า 7,000 ที่ถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากไม่จ่ายเงินสงเคราะห์ล่วงหน้ารายปีตามกำหนด พร้อมเรียกร้องให้ยุบสมาคมฯ จี้สมาคมจ่ายเงินค่าจัดการศพสมาชิกที่ยังค้างอยู่ และให้คืนเงินสงเคราะห์ล่วงหน้าคืนให้กับสมาชิก แต่ทางคณะกรรมการฯ ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะคืนหรือไม่ เพียงนำเอกสารหลักฐานบัญชีรายรับ–รายจ่าย มาชี้แจงให้สมาชิกทราบเท่านั้น สร้างความไม่พอใจให้กับสมาชิก จึงร่วมกันลงชื่อเดินหน้าเอาผิดคณะกรรมการ และยื่นร้องต่อสำนักงานและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ให้ตรวจสอบบัญชี และเส้นทางการเงินของคณะกรรมการฯ เชื่อว่ามีการทุจริต
นายบุญคง นพรัตน์วงศกร เผยมั่นใจว่ามีการทุจริตเงินค่าจัดการศพของสมาชิกแน่นอน แต่สมาคมกลับอ้างว่าขาดสภาพคล่องเพราะสมาชิกไม่ส่งเงินสงเคราะห์ล่วงหน้ารายปี ทั้งที่ที่ผ่านมาสมาชิกได้ส่งเงินสงเคราะห์ล่วงหน้ารายปี ทั้งมีการหักเงินบำรุง เรียกเก็บเงินคนที่อายุเกิน 60 ปีที่ต้องการเป็นสมาชิกโดยไม่มีใบเสร็จ แล้วเงินที่เรียกเก็บหายไปไหน ตั้งข้อสังเกตว่าทางสหกรณ์การเกษตรอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับสมาคมด้วย
ด้านนางนันธิดา พลนิกร บอกว่า ครอบครัวตนเองเป็นสมาชิกของสมาคมฯ 7 คน ส่งเงินสงเคราะห์ล่วงหน้ารายปีเฉลี่ยคนละ 4,500 บาทต่อปีมาตลอด แต่พอน้าซึ่งเป็นสมาชิกเสียชีวิตกลับไม่ได้รับเงินค่าสงเคราะห์ครบตามเงื่อนไข จึงอยากให้ทางสมาคมแสดงความรับผิดชอบจ่ายเงินค่าจัดการศพที่ยังค้างอยู่ เพราะชาวบ้านที่เข้ามาเป็นสมาชิกต่างต้องการเงินเป็นไว้ใช้ในงานศพของตนเอง
ด้านนางวิมลนันท์ ทิมาตฤกะ นายกเทศมนตรีสตึก ในฐานะนายทะเบียน ระบุว่า หลังจากที่ประชุมวิสามัญมีมติให้ยุบสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ฯ ทางนายทะเบียนก็จะดำเนินการตามระเบียบพระราชบัญญัติฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.2545 โดยจะแจ้งให้สมาคมตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้นมาตรวจสอบบัญชีของสมาคมตามที่มีการร้องเรียนว่ามีการกระทำทุจริตหรือไม่ หากพบว่ามีการทุจริตจริงก็จะนำหลักฐานเข้าแจ้งความ.-สำนักข่าวไทย