ก.คลัง 29 ม.ค. – คลังคาดเศรษฐกิจปี 60 ขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 4 และยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 4.2 ในปี 61 การลงทุนภาครัฐขับเคลื่อนหลัก
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง คาดเศรษฐกิจปี 2560 จะสามารถขยายตัวร้อยละ 4 เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 3.2 และเป็นการขยายตัวสูงกว่าประมาณการเมื่อครั้งก่อนหน้าที่ร้อยละ 3.96 จึงคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 4.2 โดยมีการใช้จ่ายภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ตามกรอบงบประมาณปี 2561 การลงทุนภาครัฐจะขยายตัวสูงถึงร้อยละ 11.8 จากปี 2560 ติดลบร้อยละ 1.1 รัฐบาลยังจัดทำงบประมาณกลางปี 2561 วงเงิน 150,000 ล้านบาท เพื่อดูแลผู้ลงทะเบียนสวัสดิการ และปฏิรูปภาคเกษตร รวมทั้งเดินหน้าโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่สำคัญ เริ่มก่อสร้างมากขึ้นในปีนี้ รวมทั้งเงินลงทุนรัฐวิสาหกิจผ่านหลายโครงการ 390,000 ล้านบาท รวมทั้งสัญญาณเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง แม้จะเลื่อนออกไปอีก 3 เดือนจากเดิม แต่มีความเชื่อมั่นกับนักลงทุนชัดเจนมากขึ้นกับภาคธุรกิจและช่วยสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชนในประเทศมากขึ้น โดยคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนจะยังขยายตัวในอัตราเร่งร้อยละ 3.8 จากปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 2.1
ส่วนยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่าขยายตัวร้อยละ 8 จำนวน 38.2 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 2.05 ล้านล้านบาท สูงจากปี 2560 มีจำนวน 35.4 ล้านคน สร้างรายได้ 1.82 ล้านล้านบาท สำหรับการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปร้อยละ 3.5 เพิ่มจากปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 3.2 ส่วนหนึ่งมาจากรายได้ครัวเรือนนอกภาคเกษตรได้รับผลดีจากภาวะตลาดแรงงานที่มีการปรับค่าแรง ภาวะการเงินที่ผ่อนคลายยังสนับสนุนการฟื้นตัวขึ้นของการใช้จ่ายภาครัวเรือน ทำให้การบริโภคเริ่มดีขึ้น และเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี คาดว่าการส่งออกด้านมูลค่าขยายตัวร้อยละ 6.6 จากปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 9.7 การนำเข้าสินค้าและบริการขยายตัวร้อยละ 8.6 สอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนภาคเอกชนที่คาดว่าจะเร่งขึ้นในช่วงเงินบาทแข็งค่า
สำหรับด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2561 จะอยู่ที่ร้อยละ 1.2 มองว่าเป็นระดับที่ยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ไม่น่ากังวลว่าจะมีปัญหาเงินเฟ้อต่ำจนติดลบเหมือนที่ผ่านมา เพราะราคาพลังงานเริ่มปรับตัวสูงขึ้น คาดว่าน้ำมันตลาดดูไบราคาเฉลี่ย 61.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาลเรลล์ สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศคาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุล 45,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นร้อยละ 9.1 ของจีดีพี. – สำนักข่าวไทย