กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – คณะกรรมการปฏิรูปพลังงาน ชูโรดแมพ 5 ปี ปฏิรูป 6 ด้าน มั่นใจสร้างธรรมาภิบาล เสริมฐานความเข้มแข็ง หนุนแข่งขันด้านพลังงานทดแทน ควบคู่การอนุรักษ์พลังงานโดยประชาชนมีส่วนร่วม
นายพรชัย รุจิประภา ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงานพร้อมคณะกรรมการฯ เปิดเผยความก้าวหน้าและสาระสำคัญของแนวทางการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน หรือโรดแมพการปฏิรูปประเทศด้านพลังงานระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2561 – 2565) ว่า จากการศึกษาของคณะกรรมการฯ จะดำเนินการปฏิรูป 6 ด้าน ครอบคลุม 17 ประเด็นด้านนโยบายพลังงานของประเทศ เบื้องต้นมั่นใจว่าแนวทางการปฏิรูปจะสร้างผลประโยชน์ด้านพลังงานที่ประชาชนและประเทศได้รับอย่างแท้จริงและอยู่บนพื้นฐานที่ทุกภาคส่วนยอมรับ พร้อมด้วยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน
สำหรับการปฏิรูปด้านพลังงาน 6 ด้าน ได้แก่ 1.สร้างธรรมาภิบาลการบริหารจัดการพลังงานของประเทศ ปฏิรูป 3 ประเด็น ได้แก่ ปฏิรูปองค์กรด้านพลังงานเพื่อให้มีองค์กรที่สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติเพื่อให้มีฐานข้อมูลด้านพลังงานที่ทันสมัย ถูกต้อง ได้รับความเชื่อถือ และสร้างธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชนและผู้ประกอบการอย่างเท่าเทียมกันเพื่อนำไปสู่การลดข้อขัดแย้งในสังคมและนำไปสู่การยอมรับของประชาชนในนโยบายพลังงานและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของประเทศ
2.พัฒนาด้านไฟฟ้าเพื่อรักษาเสถียรภาพและสร้างความมั่นคงพลังงานประเทศ ปฏิรูป 3 ประเด็น คือ ปรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ที่คํานึงถึงความสมดุลรายภาค และเพิ่มความมั่นคงของระบบไฟฟ้าสำหรับจุดที่มีความเสี่ยงและมีความสำคัญต่อประเทศ ส่งเสริมการแข่งขันในกิจการไฟฟ้า และส่งเสริมกิจการไฟฟ้าเสรีที่ใช้พลังงานทดแทนที่ผลิตและซื้อขายไฟฟ้ากันเองภายในชุมชน และปรับโครงสร้างการบริหารกิจการไฟฟ้าโดยบูรณาการหน่วยงานกิจการไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการไฟฟ้าและการลงทุนของประเทศ
3.ด้านปิโตรเลียมและปิโตรเคมีมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติและสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่จากปิโตรเคมี ปฏิรูป 2 ประเด็น อาทิ ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติ และการพัฒนาปิโตรเคมีระยะที่ 4 4. สนับสนุนพลังงานทดแทนเพื่อส่งเสริมการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ปฏิรูป 4 ประเด็น ประกอบด้วย ปฏิรูประบบบริหารจัดการเชื้อเพลิงไม้โตเร็วสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวล ส่งเสริมการนำขยะไปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้า ส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟอย่างเสรี และปฏิรูปโครงสร้างการใช้พลังงานภาคขนส่งเพื่อสร้างกรอบและโครงสร้างการใช้พลังงานภาคขนส่งที่เหมาะสมกับประเทศ
5.อนุรักษ์และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนพลังงานของประเทศ ปฏิรูป 3 ประเด็น คือ ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในกลุ่มอุตสาหกรรม การใช้ข้อบัญญัติเกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน และการใช้มาตรการบริษัทจัดการพลังงาน สำหรับหน่วยงานภาครัฐและกลุ่มอุตสาหกรรม และ 6.กำหนดทิศทางการพัฒนา การลงทุน และการใช้เทคโนโลยีใหม่ในการพัฒนาด้านพลังงานของประเทศ ปฏิรูป 2 ประเด็น เช่น การส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และการส่งเสริมเทคโนโลยีระบบการกักเก็บพลังงาน
นายมนูญ ศิริวรรณ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน กล่าวว่า หากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าแนวทางการพัฒนาด้านพลังงานของประเทศจะเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยจากโรดแมพทั้ง 6 ด้าน 17 ประเด็นเบื้องต้นคาดว่าจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้นปี 2561- 2562 จะมีศูนย์บริการแบบครบวงจร หรือ One Stop Service ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและธุรกิจไฟฟ้า พร้อมจัดตั้งศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตพื้นที่การตั้งโรงไฟฟ้าจะเกิดจากประชาชนเสนอเองเป็นครั้งแรก พร้อมทั้งเกิดการปรับแผนการจัดหาพลังงานใหม่ทั้งไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน มีการปรับโครงสร้างบริหารกิจการไฟฟ้าและส่งเสริมกิจการไฟฟ้าเสรีที่ใช้พลังงานทดแทน มีการริเริ่มการสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่ของประเทศจากปิโตรเคมี และรัฐบาลสามารถกำหนดทิศทางลงทุนและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงานที่ได้รับการยอมรับจากผู้ลงทุน
ขณะที่ระยะกลาง ปี 2563 – 2565 การบริหารจัดการด้านพลังงานมีธรรมาภิบาลได้รับการยอมรับจากประชาชน ลดการผูกขาดสร้างการแข่งขันในทุกกิจการพลังงานประชาชนเข้าถึงการใช้พลังงานราคาที่เป็นธรรม โดยได้รับคุณภาพและการบริการที่ดีขึ้น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นไปตามแผนการจัดหาที่ปรับปรุงใหม่ ทั้งโรงไฟฟ้า สายส่ง และระบบท่อ มีการลงทุนด้านพลังงานทั้งพลังงานทดแทน อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมใหม่ อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงาน อันนำไปสู่มูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 200,000 – 300,000 ล้านบาท และจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถของประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ ตลอดจนสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ ส่งผลต่อการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน
นายกวิน ทังสุพานิช กรรมการและเลขานุการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน กล่าวว่า คณะกรรมการฯ จัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศด้านพลังงานเสร็จ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการนำเสนอต่อที่ประชุมร่วมคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในเดือนมกราคมนี้ ก่อนนำเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างแผนปฏิรูปประเทศภายในเดือนมีนาคม 2561 และรายงานต่อรัฐสภาเพื่อทราบและประกาศบังคับใช้ภายในต้นเดือนเมษายน 2561.-สำนักข่าวไทย