แม่วอนขอดวงตาให้ลูกสาววัย 6 ขวบที่ตาบอด

พิษณุโลก 4 ม.ค.-คุณแม่วัย 45 ปี วอนขอดวงตาให้ลูกสาววัย 6 ขวบ หลังเคราะห์ร้าย เศษดินเข้าตาจนดวงตาอักเสบ แต่รักษาไม่ต่อเนื่องจนลูกสาวตาบอด ถูกเพื่อนล้อเลียนจนกลายเป็นปมด้อย 


เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางกมลวรรณ คงภักดี อายุ 45 ปี ชาว จ.พิษณุโลก ได้พา ด.ญ ธัญญาภัต  คงภักดี หรือน้องมุก ลูกสาววัย 6 ขวบ มาร้องขอความช่วยเหลือกับสื่อมวลชนอยากให้ลูกได้รับการรักษาดวงตาข้างซ้าย เนื่องจากเมื่อตอนช่วงอายุ 1 ขวบ ลูกสาวได้ไปเล่นดินในเหมืองแห่งหนึ่ง จ.ลำปาง แล้วดินเกิดเข้าตาทำให้เกิดการอักเสบมานานและได้พยายามรักษาแล้วแต่ก็ไม่หาย ตายังคงอักเสบมีน้ำตาไหลออกมาตลอด สุดท้ายดวงตาข้างซ้ายต้องบอดสนิท จนปัจจุบันน้องมุกเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เมื่อเข้าโรงเรียนด้วยความผิดปกติทางสายตาทำให้ถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนทุกวันว่าเป็นคนตาบอด จนลูกสาวไม่อยากไปเรียนหนังสือ บางครั้งต้องทะเลาะมีปากเสียงกับเพื่อน ตนเองจึงตัดสินใจพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ก่อนส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อกลางเดือน ธ.ค. ปีที่ผ่านมา ซึ่งแพทย์ระบุว่าน้องมุกตาบอดถาวรแล้วจึงทดลองใส่ดวงตาเทียมให้ โดยนัดตรวจอีกครั้งในวันที่ 22 ม.ค. นี้ เพื่อวินิจฉัยทำการผ่าตัดแก้วตาเทียมใหม่ให้ ทั้งนี้จะมีเรื่องค่าใช้จ่ายประมาณ 3-4 หมื่นบาท


ด้าน นางกมลวรรณ คงภักดี อายุ 45 ปี กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีบุตรสาวรวม 4 คน น้องมุกเป็นลูกสาวคนเล็ก มีความตั้งใจอยากให้ลูกได้รับการรักษาผ่าตัดใส่ดวงตาเทียม หรือผ่าตัดแก้วตาเทียม เพื่อให้ลูกใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติทั่วไป ซึ่งอยากให้ลูกได้เปลี่ยนดวงตาใหม่ก่อนขึ้นเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เพราะไม่อยากให้กระทบกับการเรียน ตนเองจึงขอวิงวอนให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายส่วนเกิน เพราะลำพังตนเองคนเดียวมีรายได้จากการรับจ้างทั่วไปเดือนละไม่ถึง 3,000 บาท ส่วนสามีได้เสียชีวิตไปตั้งแต่น้องมุกยังเล็กๆ เวลาเดินทางจาก อ.พรหมพิราม เพื่อมารักษาที่โรงพยาบาลเดือนละ 2 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 600 บาท รายได้จึงไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว หากผู้ใจบุญมีจิตกุศลอยากช่วยเหลือเปลี่ยนดวงตาใหม่ให้กับลูกสาวเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ในปี 2561 สามารถช่วยผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก หมายเลขบัญชี 983-1-21046-8 นางกมลวรรณ  คงภักดี  หรือโทรศัพท์ 089-5173536.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง