“ทักษิณ” ลั่น​หนุนรัฐบาลทำงานต่อ​ บอกกลับมาแล้วไม่เสียข้าวสุก

พิษณุโลก 17 มี.ค.- “ทักษิณ” ลั่น​ เดินหน้าหนุนรัฐบาลทำงานต่อ​ ให้สัญญาคนเสื้อแดง กลับมาแล้วไม่เสียข้าวสุก โต้กลับ “พรรคประชาชน” ย้ำเกลียดที่สุด​คือยุบพรรค เพราะเคยโดนมาก่อน​ ย้อนถามขาประจำ ปู่เคยมีเรื่องกันหรือถึงตามเห่าหอนไม่เลิก ออกตัวผลงานรัฐเกิดช้า เหตุเป็นพรรคร่วม วอน “พ่อมหาจำเริญ” ช่วยกันทำงานหน่อย ขู่ถ้าไม่ทำก็ตัวใครตัวมัน


นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีพบปะมวลชนเสื้อแดงในงานเรื่องเล่า “ประสบการณ์ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของมวลชน” ที่หอประชุมอนุสรณ์ 100 ปี มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก

โดย นายทักษิณ บอกว่า ตนติดหนี้ไว้นาน ตอนนั้นบอกว่าจะมีการจัดสังสรรค์ก่อนเลือกตั้งแต่กลัวว่าเป็นประเด็นจึงขอติดหนี้ไว้ก่อนพอตนกลับมาก็ถูกทวงแล้วทวงอีกว่าประชาชนอยากเจอ ในที่สุดก็ลงตัวว่าจะมาวันนี้ 17 ปีที่รอคอยก็ตรงกับวันที่ 17 พอดีที่เดินทางมาหากัน


นายทักษิณ กล่าวอีกว่าต้องขอคารวะหัวใจทุกคน ที่เด็ดเดี่ยวต่อสู้เพื่ออยากเห็นความเป็นธรรมในบ้านเมือง ที่สำคัญคือไม่เคยลืมตน ซึ่งตนจากไปนานเกินไป หากประชาชนลืมตนก็คงไม่สามารถน้อยใจได้ แต่นี่ไม่ลืมเลย เมื่อกลับมาก็อยากเจอตนอีก ตนก็ต้องมา เพราะตนเป็นคนที่รู้จักสำนึกในบุญคุณของคน ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร บุญคุณของทุกๆคนคือไม่เคยทิ้งตน 17 ปีไม่เคยทิ้งกัน เลือกตั้งทุกครั้งก็ไปเลือก ไปเชียร์ ไปช่วยหาเสียง แม้ครั้งที่ผ่านมาเราจะเสียหายไปเยอะ อาจเกิดจากความประมาทหรือเกิดจากการที่กระแสพลิกในตอนท้าย แต่เชื่อว่าในครั้งต่อไปพรรคเพื่อไทยคงจะแข็งแรงมากกว่านี้เยอะ โดยมีทุกคนคอยเป็นกำลังใจคอยสนับสนุน

วันนี้ที่ตนมา นอกจากมาขอบคุณในน้ำใจที่ไม่เคยลืมกัน ยังอยากมาบอกว่าวันนี้เราไม่ต้องไปต่อสู้อะไรแล้วในเรื่องของการเมือง การเมืองวันนี้ตนอยากเห็นทุกฝ่ายมองประเทศไทยเป็นหนึ่ง เพราะลำพังเราสามัคคีกันอย่างไรก็ยังสู้เขายาก แต่ถ้าการแตกแยกเกิดขึ้นในบ้านเมือง เราก็ยิ่งสู้เขายาก เพราะการแข่งขันในโลกใหม่มันรุนแรง แข่งขันกันด้วยพลังเงิน ด้วยเทคโนโลยี วันนี้เราจะต้องแข็งแรงมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นิสัยเก่าๆที่ชอบอิจฉาริษยา ทำงานเป็นทีมไม่ได้ คนไทยต้องเบาลง ไม่อย่างนั้นประเทศเราจะไม่แข็งแรง

ตนอยากบอกพี่น้องเสื้อแดงทุกคน ว่าตนจะถูกใส่ร้ายป้ายสีในอดีตอย่างไรก็แล้วแต่ วันนี้ตนให้อภัย เพราะตนถือว่าตนคือผูรักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรม อยากเห็นคนไทยทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีความเป็นธรรม


นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า ตนกลับได้เพราะพระเมตตา ดังนั้นจะต้องกลับมาทำงานให้กับบ้านเมือง ทำให้เป็นยุคศิวิไลซ์ การเมืองเข้มแข็ง แข็งแกร่ง และบริหารประเทศด้วยปัญญา ด้วยความถูกต้อง แล้วบ้านเมืองเราจะไปด้วยดี ลูกหลานเราก็จะสบาย

วันนี้หลายคนยังมองว่าอนาคตลูกหลานจะเป็นอย่างไร แม้กระทั่งคนมีฐานะอย่างวิตกว่าลูกหลานจะอยู่กับสังคมยุคใหม่อย่างไร คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักว่าภัยคุกคามทางการพัฒนามันแรงมาก เราจะต้องรีบปรับตัว โดยเฉพาะคนที่อยู่ในกระแสข่าว เพราะฟังดูแล้วก็ยังห่างไกลจากความเข้าใจโลกที่เปลี่ยนไป วันนี้เรายังจมอยู่กับเรื่องของการเกษตร การทำงานเป็นลูกจ้าง แต่ในอนาคตประเทศไทยจะเป็นลักษณะของธนาคารหน่วยกิต ไม่ใช่ประเภทจ่ายครบจบแน่ แต่เป็นการเรียนครบแล้วค่อยจบ วันนี้เราจะทำให้คนไทยเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ไม่มีอะไรยาก เพียงแต่ประชาชนต้องการการนำที่ถูกต้อง

ปีนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะต้องสร้างโอกาสให้ ต้องแก้ปัญหาที่หมักหมมมานานให้ได้ ตนก็เลยให้คำแนะนำไปหลายเรื่อง ขอให้สังเกตดูว่าตนพยายามไปรู้จริงกับปัญหาหลาย แม้แต่การลงพื้นที่ภาคใต้ที่มีการสู้กันมาก่อความไม่สงบมาเป็นเวลา 20 ปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของอุดมการณ์ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความเข้าใจ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย สนุกสนานกับผลประโยชน์ที่ได้รับ สิ่งเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขแน่นอน

นายทักษิณ ยังเปิดเผยด้วยว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตนคิดกับนายกฯ อิ๊งค์ ดังๆว่าทำอย่างไรจะให้หนี้สินคนไทยหมด เพราะวันนี้หนี้ครัวเรือนเยอะเหลือเกิน

“เราจึงคิดกันว่าจะซื้อหนี้ทั้งหมด ซื้อหนี้ของประชาชนออกจากระบบธนาคารดีหรือไม่ แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อน ไม่ต้องชำระเต็มจำนวน แล้วให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ยกจากเครดิตบูโรให้หมด ให้เป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่องทำมาหากินใหม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ต้องใช้เงินรัฐสักบาท เพราะตนสามารถให้เอกชนลงทุน วันนี้รัฐเป็นหนี้เยอะ เราเข้ามาหนี้ก็บานตะไทแล้ว วันนี้จะขยับอะไรทีก็เป็นหนี้ไปหมดเราต้องสร้างหนี้ให้น้อยที่สุด และสร้างโอกาสให้คนไทยมากที่สุด พูดง่ายทำยากแต่ต้องทำ”

นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า ตนเป็นนักเรียนเตรียมทหารก่อนเข้าห้องเรียนต้องปฏิญาณตน หนึ่งในนั้นคือ “ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้” และ “ตายเสียกว่าที่จะอยู่อย่างผู้แพ้” ดังนั้นสิ่งที่ตนพูด นายกพูด ทำแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนที่เป็นพรรคไทยรักไทย เพราะพรรคมีขนาดเล็กลง มีรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงน้อยลง บางทีรัฐมนตรีกระทรวงข้างเคียงบางทีก็ทำงานด้วยกันไม่คล่องตัว พยายามทั้งนวดทั้งบีบให้ช่วยกัน

“ทำงานเถอะพ่อมหาจำเริญ ช่วยกันหน่อยเถอะ ถ้าพ่อมหาจำเริญไม่ทำ ตัวใครตัวมันนะครับ วันนี้ถือว่าบ้านเมืองคือหัวใจที่เราจะต้องทำให้ผ่านไปให้ได้ ”

นายทักษิณยังกล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ที่อาจทำให้พรรคประชาชนเข้าใจผิดว่า ตนอาจจะพูดสั้นไปทำให้พรรคประชาชนมองว่าตนเห็นดีเห็นงามกับการยุบพรรค

“ผมเป็นคนเกลียดเรื่องระบบยุบพรรคที่สุด เพราะโดนมาเยอะแล้ว และผมก็ไม่อยากเห็นพรรคประชาชนหรือพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ไม่อยากเห็นเลย แต่เราต้องแคร์ ผมโดนยุบตนก็เคารพกติกา ที่ผมพูดวันนั้นว่าเดี๋ยวจะหายไปอีกพรรคนั่นคือหายไปจากความทรงจำของประชาชน การหายไปจากความทรงจำของประชาชนเป็นการลงโทษที่ร้ายแรงที่สุด เพราะการเมืองจะตั้งอีก 10 พรรคก็ได้ ถ้ายังไม่หายจากความทรงจำของประชาชน ถ้าหายไปแล้วตั้งยังไงก็ไม่ได้ เราอยากเห็นพรรคการเมืองดีๆอยู่กับประชาชน ไม่อยากเห็นพรรคการเมืองดีๆไปใช้วิธีการของพรรคการเมืองบางพรรคเก่าๆแค่นั้น นั่นคือสิ่งที่ผมพูดวันนั้น ไม่ได้หมายความว่าไปเห็นดีเห็นงาม ขออธิบายจะได้เข้าใจถูก“

นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า ตนเป็นคนมองโลกในแง่ดี พร้อมให้โอกาส พี่น้องคนเสื้อแดงก็เห็นว่าตนมีขาประจำ บางคนเป็นขาเดียวกันย้ายไปอยู่ขาประจำก็มี เพราะฉะนั้นตนไม่ได้หวั่นไหว แทนที่จะเป็นขาประจำตนไม่อยากเห็นเขาเครียดเพราะด่าตนแทบตายตนก็ไม่เครียด ตนเป็นห่วงเดี๋ยวเส้นโลหิตในสมองแตกขึ้นมา อย่าไปโกรธเลย มานั่งคุยกับตนกินไวน์กับตน แล้วมีอะไรคับแค้นหัวใจมาคุยกัน ก่อนบอกว่าตนก็ลืมถามพ่อ พ่อเสียไป แล้วลืมถาม

“ปู่ผมมีอะไรกับปู่เขาหรือไม่ มันถึงไม่เลิกเห่าหอนเสียที ที่ผมพูดคืออยากเห็นบ้านเมืองสามัคคี ไม่อยากเห็นเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง ด่ากันไปด่ากันมาไร้สาระ ผมปล่อยวางหมดแล้ว”

อยากให้พี่น้องคนเสื้อแดงทั้งหลายกลับบ้านไปบอกพรรคพวก ว่าเรื่องปัญหาประเทศตนรับไว้และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กระบวนการการแก้ปัญหาต้องใช้เวลาและยากกว่าเดิม เพราะทหารวางระบบไว้เลอะพอสมควร ฟื้นยากหน่อยแต่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง
เราต้องสู้ ต้องทำให้ได้

นายทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า อยู่ๆการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็อภิปรายนายกฯคนเดียว ก็ดีเหมือนกัน แต่อภิปราย ส.ท.ร. ทีแรกจะใช้ชื่อทักษิณผิดกติกา พอตนไปพูดตำแหน่งตนคือส.ท.ร. ก็เลยเอาตรงนี้ไป เข้าใจว่าจะใช้แบบนี้ แต่ในสายตาคนที่รักตน ส.ท.ร.ไม่ได้แปลว่าเสือกทุกเรื่อง แปลว่า “สุดที่รัก” ขอให้คิดว่าเป็นสุดที่รักเยอะหน่อยก็แล้วกัน ตนอยากทำงานให้ประชาชนเลยขอเสือกทุกเรื่อง แต่ว่าเสือกแล้วทำงานได้ดี ก็ขอให้เป็นที่รักของประชาชนก็แล้วกัน

นายทักษิณ กล่าวว่า พี่น้องมากันหลายจังหวัดอิ่มหรือไม่ กลัวเลี้ยงไม่พอ ซึ่งตนผูกพันกับประชาชนไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปีก็คิดถึงเรื่องของประชาชน และประเทศ อย่างที่เล่าให้ฟังตนเป็นคนกตัญญูพอประชาชนไม่ลืมเราก็คิดว่าประชาชนลำบากจะช่วยอย่างไร และผมจะไปพบปะพี่น้องและจะใช้เวลามากขึ้นเพื่อให้รู้จริงถึงปัญหา ปัญหาถ้ารู้ไม่จริงก็แก้ไม่ถูก ถ้ารู้จริงปัญหาก็จะแก้ได้ วันนี้ตนต้องการเห็นข้าราชการทุกกระทรวง คนไทยทุกหมู่เหล่ายึดผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลักในการแก้ปัญหา เพราะฉะนั้นตนว่าบ้านเมืองไปได้ บ้านเมืองของเรามีศักยภาพแต่เราขาดความสามัคคีนานไปหน่อย

“ใครเป็นพวกผมก็ลำบากหน่อยที่ผ่านมา พวกผมที่ยอมลำบากและไม่ทิ้งผมก็ยังมีจำนวนมาก เพราะฉะนั้นวันนี้ผมพร้อมที่จะเอาโอกาสดีๆให้คนไทยกลับขึ้นมา ขอเวลานิดหนึ่ง ผมขอเวลาอีกไม่นาน ไม่ต้องรอถึง 9 ปี จำได้ไหมขอเวลาอีกไม่นาน ไม่ต้องถึง 9 ปีแน่นอน อย่างมากอีกสมัยเดียวเพื่อไทยแก้ปัญหาได้หมด แต่ถ้าอีก 2 ปีที่เหลือรับรองว่าเบาบางแน่นอน” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า บางวันตนทำงาน 08.30 น.-22.00 น. แต่ตื่น 05.00 น.ตื่นมาออกกำลังกายก่อนเดี๋ยวไม่แข็งแรง ตื่นมาออกกำลังกาย 08.30 น.ก็นับแล้ว 22.00 น. กลับบ้าน แต่รายวันจะเป็นอย่างนี้ต่ออาทิตย์ เพราะว่าอยากเห็นการแก้ปัญหารวดเร็วกว่านี้ มันช้าไปหน่อย สมัยตนมันง่ายเพราะนั่งหัวโต๊ะ นั่งไร้บี้ วันนี้เงินยังอยู่ในกระทรวงต่างๆอีกเยอะใช้ช้า ตนใช้คำว่าพ่อมหาจำเริญนั่งทับเงินทับทองจำนวนมาก รีบใช้หน่อยเถอะ เงินจะได้ถึงมือประชาชนโดยเร็ว เป็นเรื่องที่เราพูดเล่นกันในการบริหารเพื่อเร่งระบายเงินเข้าสู่การพัฒนาโดยเร็วจัดซื้อจัดจ้างเร็วๆ ประเทศจะได้เดินหน้า ทำไมต้องใช้ทั้งไม้นุ่มและไม้แข็ง พูดไปพรรคประชาชนก็ชอบว่า ว่าพูดแล้วทำไม่ได้ พูดแล้วไม่ตรงปก ขอให้ไปจดไว้เลย “ทำได้ทุกเรื่องแต่เวลามันยืดเนื่องจากเหตุการณ์มันเปลี่ยนไป อย่างเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตอีกไม่นานพวกคุณจะเข้าใจมากกว่านี้ เพราะตอนนั้นที่พูดกันว่าจะไม่กู้เพราะเราไปเข้าใจว่าไม่มีใครเข้ามายุ่งกับการบริหาร เราก็จะออกเหรียญและให้ประชาชนใช้พร้อมกันทีเดียว แล้วเหรียญก็จะวนในระบบ แล้วรัฐบาลค่อยๆตั้งงบประมาณชดเชย และขณะเดียวกันเศรษฐกิจก็จะดีเก็บ Vat ก็ได้มันก็จะใช้หนี้ตัวมันเองแต่ปรากฏว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงค์ชาติ)มาถึงเป่านกหวีดบอกไม่ได้ต้องมีเงิน ต้องตั้งงบประมาณ ผลสุดท้ายคือผิดแผนแต่เราพยายามปรับปรุงแก้ไขจนได้ แล้ว ต่อไปเทคโนโลยีดิจิทัลวอลเล็ตพี่น้องจะจำเหมือน 30 บาทรักษาทุกโรค จะเป็นกระเป๋าตังค์ของท่าน ท่านจะถูกเติมเงินในกระเป๋านี้โดยวิธีการต่างๆเพราะฉะนั้นกระเป๋าดิจิทัลนี้จะเป็นอะไรที่อยู่กับท่านตลอดชีวิต แล้วท่านจะรู้ว่าโอ้ เป็นความปรารถนาดีของพรรคเพื่อไทยจริงๆ แต่วันนี้คนยังมองไม่เห็นเราก็ปล่อยให้มองไม่ออกต่อไป เราก็กำลังทำอะไรที่เป็นเรื่องสมัยใหม่และก้าวหน้า เพราะทำแบบโบราณมันเอาไม่อยู่จริงๆ พี่น้องเชื่อหรือไม่ว่าถ้าเปรียบเทียบเศรษฐกิจเหมือนบ้านเป็นฐานรากมันพัง คานคอดินทรุด มันซ่อมยากกว่าซ่อมหลังคา ตอนปีต้มยำกุ้งเป็นปีที่หลังคาพัง ซ่อมง่ายซ่อมเร็ว วันนี้ซ่อมยากขึ้นแต่ก็ต้องซ่อมเพราะเราไม่สามารถสร้างบ้านหลังใหม่ได้ต้องเอาหลังนี้ซ่อมจนได้ บังเอิญว่าเทคโนโลยีใหม่ๆมันเกิดขึ้นแทนที่จะไปขุดใหม่ก็สามารถเสริมได้ทำนองนี้ คือเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้การซ่อมแซมเศรษฐกิจประเทศไทยได้เร็วขึ้น

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า “พี่น้องครับเทคโนโลยีมันมาแน่นอน และผมติดตามมาตลอดเพื่อเอามาเป็นประโยชน์ให้กับประเทศไทย อีกหน่อยทุกคน ลูกหลานใช้ AI เป็นหมด ถ้ามองว่าเทคโนโลยีมาช่วยเราชีวิตจะง่ายขึ้น แต่เมื่อมองว่ามันยากเหลือเกินทำให้ชีวิตเราลำบากเราก็ยังโง่ต่อไปต้องหยุดโง่ ไม่มีอะไรยาก ผมอยู่ผมจะทำผมจะช่วยคนไทยทั้งหมด” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ ยืนยันว่า กลับมาไม่เสียข้าวสุกแน่ อันนี้เราถือว่าเราพูดกันเหมือนพูดกับคนในบ้าน เราพูดกันได้ทุกเรื่องมันจะหลุดออกไปก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมต้องการให้เน้นว่าผมพูดกับคนในบ้านผมนะ เพราะฉะนั้นผิดนิดผิดหน่อยก็ขออภัยด้วย ขอบคุณมากดีใจที่ได้มาเจอกันก็ขอให้เดินทางกลับบ้านด้วยความสวัสดิภาพ และเราจะเจอกันอีกเรื่อยๆไม่หายไปไหนแต่ก็วนเวียนหมุนไปหมุนมา-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.ขยายเวลา นายกฯ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารอบ 2

ศาล รธน. 30 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากขยายเวลา นายกฯ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารอบ 2 คลิปสนทนา “ฮุนเซน” ถึง 4 ส.ค.นี้ ชี้อนุญาตเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ยื่นแจงถือว่าไม่ติดใจ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ครั้งที่ 2 ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องในคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ที่เข้าชื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ผู้ถูกร้อง กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 68 และนางสาวแพทองธาร […]

โรงงานพลุระเบิด เสียชีวิต 9 ราย เจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุโรงงานพลุระเบิด ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง ความคืบหน้าเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่บ้านโพธิ์ทราย ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 9 ราย และผู้บาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง บ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง รถยนต์ 1 คัน เบื้องต้นไม่พบใบอนุญาตทำพลุ เจ้าหน้าที่ EOD และพิสูจน์หลักฐานเร่งดำเนินการตรวจสอบ ขณะที่ดินปืนยังปะทุไม่หยุด ลูกสาวของคนงานรายหนึ่งที่เข้าไปทำงานในบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า แม่ของตนปกติทำงานที่ไร่แตงโม เพิ่งมารับจ้างทำพลุลูกนกได้ประมาณ 2 วัน ตอนนี้พยายามโทรติดต่อแม่ แต่ติดต่อไม่ได้ ภาวนาขอให้แม่ปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์พลุระเบิดในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่เฉพาะที่ ต.บ้านโพธิ์ เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ปี 2549 ปี 2558 รวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ […]

“พล.อ.ณัฐพล” สั่ง ทบ.เชิญ ผช.ทูตทหารต่างชาติ ลงชายแดน

กลาโหม 30 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” สั่ง ทบ.เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ลงพื้นที่ดูความเสียหายประชาชนจากการปฏิบัติของกัมพูชา พร้อมยืนยันประท้วงแน่ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ต้องบอกนานาชาติ ชี้เป็นธรรมชาติ “กัมพูชา” บิดเบือน แต่ไทยมีหลักฐานหมด ทั้งภาพถ่ายทางอากาศ-เทคโนโลยี เข้าสู่กระบวนการเจรจา ยอมรับทำงานภายใต้แรงกดดัน วอนสื่อทำความเข้าใจ ชี้แจง ปชช. (30 ก.ค.68) เวลา 08.15 น. พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ถึงกรณีฝ่ายไทยเตรียมให้กองทัพบกประสานผู้ช่วยทูตทหารนานาประเทศ ประจำประเทศไทยลงพื้นที่ชายแดนว่า จะพาไปดูความสูญเสียของพลเรือนที่ได้รับการปฏิบัติจากฝ่ายทหารกัมพูชา ซึ่งเพิ่งได้สั่งการไปที่กองทัพบกเมื่อคืนนี้ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า จะมีประเทศใดบ้างเข้าร่วม ทั้งนี้พยายามประสานงานกับประเทศมาเลเซียให้มาดูเรื่องของสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย ส่วนกรณีเรื่องการละเมิดข้อตกลงของกัมพูชาที่มีการยิงตามแนวชายแดน เรื่องนี้ต้องมีการประท้วง และสื่อสารให้นานาชาติรับทราบ โดยได้ย้ำกับกองทัพบกให้สื่อสารทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ซึ่งโฆษกทุกเหล่าทัพต้องช่วยกัน รวมทั้งของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา หรือ ศบ.ทก. พร้อมย้ำว่า หลักของการหยุดยิงตามข้อตกลงคือ ทุกหน่วยต้องหยุด อยู่กับที่ และรอจนกว่า จะมีผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี ส่วนที่ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธการละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงนั้น […]

สภาฯ ยืนไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุสู้รบชายแดน

รัฐสภา 30 ก.ค.- “สภาฯ” ยืนไว้อาลัย ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน “ครูมานิตย์” ชื่นชมทหารกล้า ลั่นถ้าไม่มีอาวุธที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตัวเอง เผย ไปนั่งเฝ้าที่ศูนย์อพยพ มีทั้งจิตตก ซึมเศร้า กินข้าวไม่ได้ ต้องกินกาแฟแทน เพราะคิดถึงบ้าน พร้อมเสนอลดค่าน้ำ ค่าไฟ บ้านที่ผู้อพยพไปอยู่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม โดยในช่วงหารือ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย หารือถึงปัญหาการสู่รายแดนไทย กัมพูชา ว่า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.จนถึงปัจจุบัน ที่เกิดเหตุรุนแรงการสู่รบในหลายจังหวัด ซึ่ง จังหวัดที่โดนรุนแรงมากที่สุดคือจ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายเพราะมีประสาทต่างๆแและอันดับสองคือจังหวัดศรีสะเกษซึ่งมีหลายมิติ แต่มิติแรกที่จบไปโดยตัวมันเองว่าทหารมีไว้ทำไม ถ้าไม่มีทหารไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตนด้วย เพระายุทธวิธีในวันนั้นเห็นได้ชัด ก่อนที่จะชะลอการหยุดยิง เพราะตนยังไม่เชื่อว่าจะยุติโดยสิ้นเชิง เพราะตนอยู่ในพื้นที่ แต่ทหารเรามีความกล้าหาญและมียุทธวิธีที่ดีประคับประคองคิดพื้นที่ไม่ให้พี่น้องเราเดือดร้อนไปมากกว่านี้ “เสียใจกับ 15 วีรบุรุษ จึงขอฝากทางราชการว่าอะไรที่มอบให้เขาได้ใหญ่ก็มอบให้เถอะไม่ว่าจะเป็นการชดเชยให้กับครอบครัว หรือเพิ่มยศให้กับเขาให้โอกาสลูกของเขา ผมเกิดมาก็เพิ่งเห็นเที่ยวนี้ว่าเอฟ […]