“ทักษิณ” ลั่น​หนุนรัฐบาลทำงานต่อ​ บอกกลับมาแล้วไม่เสียข้าวสุก

พิษณุโลก 17 มี.ค.- “ทักษิณ” ลั่น​ เดินหน้าหนุนรัฐบาลทำงานต่อ​ ให้สัญญาคนเสื้อแดง กลับมาแล้วไม่เสียข้าวสุก โต้กลับ “พรรคประชาชน” ย้ำเกลียดที่สุด​คือยุบพรรค เพราะเคยโดนมาก่อน​ ย้อนถามขาประจำ ปู่เคยมีเรื่องกันหรือถึงตามเห่าหอนไม่เลิก ออกตัวผลงานรัฐเกิดช้า เหตุเป็นพรรคร่วม วอน “พ่อมหาจำเริญ” ช่วยกันทำงานหน่อย ขู่ถ้าไม่ทำก็ตัวใครตัวมัน


นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีพบปะมวลชนเสื้อแดงในงานเรื่องเล่า “ประสบการณ์ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของมวลชน” ที่หอประชุมอนุสรณ์ 100 ปี มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก

โดย นายทักษิณ บอกว่า ตนติดหนี้ไว้นาน ตอนนั้นบอกว่าจะมีการจัดสังสรรค์ก่อนเลือกตั้งแต่กลัวว่าเป็นประเด็นจึงขอติดหนี้ไว้ก่อนพอตนกลับมาก็ถูกทวงแล้วทวงอีกว่าประชาชนอยากเจอ ในที่สุดก็ลงตัวว่าจะมาวันนี้ 17 ปีที่รอคอยก็ตรงกับวันที่ 17 พอดีที่เดินทางมาหากัน


นายทักษิณ กล่าวอีกว่าต้องขอคารวะหัวใจทุกคน ที่เด็ดเดี่ยวต่อสู้เพื่ออยากเห็นความเป็นธรรมในบ้านเมือง ที่สำคัญคือไม่เคยลืมตน ซึ่งตนจากไปนานเกินไป หากประชาชนลืมตนก็คงไม่สามารถน้อยใจได้ แต่นี่ไม่ลืมเลย เมื่อกลับมาก็อยากเจอตนอีก ตนก็ต้องมา เพราะตนเป็นคนที่รู้จักสำนึกในบุญคุณของคน ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร บุญคุณของทุกๆคนคือไม่เคยทิ้งตน 17 ปีไม่เคยทิ้งกัน เลือกตั้งทุกครั้งก็ไปเลือก ไปเชียร์ ไปช่วยหาเสียง แม้ครั้งที่ผ่านมาเราจะเสียหายไปเยอะ อาจเกิดจากความประมาทหรือเกิดจากการที่กระแสพลิกในตอนท้าย แต่เชื่อว่าในครั้งต่อไปพรรคเพื่อไทยคงจะแข็งแรงมากกว่านี้เยอะ โดยมีทุกคนคอยเป็นกำลังใจคอยสนับสนุน

วันนี้ที่ตนมา นอกจากมาขอบคุณในน้ำใจที่ไม่เคยลืมกัน ยังอยากมาบอกว่าวันนี้เราไม่ต้องไปต่อสู้อะไรแล้วในเรื่องของการเมือง การเมืองวันนี้ตนอยากเห็นทุกฝ่ายมองประเทศไทยเป็นหนึ่ง เพราะลำพังเราสามัคคีกันอย่างไรก็ยังสู้เขายาก แต่ถ้าการแตกแยกเกิดขึ้นในบ้านเมือง เราก็ยิ่งสู้เขายาก เพราะการแข่งขันในโลกใหม่มันรุนแรง แข่งขันกันด้วยพลังเงิน ด้วยเทคโนโลยี วันนี้เราจะต้องแข็งแรงมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นิสัยเก่าๆที่ชอบอิจฉาริษยา ทำงานเป็นทีมไม่ได้ คนไทยต้องเบาลง ไม่อย่างนั้นประเทศเราจะไม่แข็งแรง

ตนอยากบอกพี่น้องเสื้อแดงทุกคน ว่าตนจะถูกใส่ร้ายป้ายสีในอดีตอย่างไรก็แล้วแต่ วันนี้ตนให้อภัย เพราะตนถือว่าตนคือผูรักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรม อยากเห็นคนไทยทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีความเป็นธรรม


นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า ตนกลับได้เพราะพระเมตตา ดังนั้นจะต้องกลับมาทำงานให้กับบ้านเมือง ทำให้เป็นยุคศิวิไลซ์ การเมืองเข้มแข็ง แข็งแกร่ง และบริหารประเทศด้วยปัญญา ด้วยความถูกต้อง แล้วบ้านเมืองเราจะไปด้วยดี ลูกหลานเราก็จะสบาย

วันนี้หลายคนยังมองว่าอนาคตลูกหลานจะเป็นอย่างไร แม้กระทั่งคนมีฐานะอย่างวิตกว่าลูกหลานจะอยู่กับสังคมยุคใหม่อย่างไร คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักว่าภัยคุกคามทางการพัฒนามันแรงมาก เราจะต้องรีบปรับตัว โดยเฉพาะคนที่อยู่ในกระแสข่าว เพราะฟังดูแล้วก็ยังห่างไกลจากความเข้าใจโลกที่เปลี่ยนไป วันนี้เรายังจมอยู่กับเรื่องของการเกษตร การทำงานเป็นลูกจ้าง แต่ในอนาคตประเทศไทยจะเป็นลักษณะของธนาคารหน่วยกิต ไม่ใช่ประเภทจ่ายครบจบแน่ แต่เป็นการเรียนครบแล้วค่อยจบ วันนี้เราจะทำให้คนไทยเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ไม่มีอะไรยาก เพียงแต่ประชาชนต้องการการนำที่ถูกต้อง

ปีนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะต้องสร้างโอกาสให้ ต้องแก้ปัญหาที่หมักหมมมานานให้ได้ ตนก็เลยให้คำแนะนำไปหลายเรื่อง ขอให้สังเกตดูว่าตนพยายามไปรู้จริงกับปัญหาหลาย แม้แต่การลงพื้นที่ภาคใต้ที่มีการสู้กันมาก่อความไม่สงบมาเป็นเวลา 20 ปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของอุดมการณ์ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความเข้าใจ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย สนุกสนานกับผลประโยชน์ที่ได้รับ สิ่งเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขแน่นอน

นายทักษิณ ยังเปิดเผยด้วยว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตนคิดกับนายกฯ อิ๊งค์ ดังๆว่าทำอย่างไรจะให้หนี้สินคนไทยหมด เพราะวันนี้หนี้ครัวเรือนเยอะเหลือเกิน

“เราจึงคิดกันว่าจะซื้อหนี้ทั้งหมด ซื้อหนี้ของประชาชนออกจากระบบธนาคารดีหรือไม่ แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อน ไม่ต้องชำระเต็มจำนวน แล้วให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ยกจากเครดิตบูโรให้หมด ให้เป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่องทำมาหากินใหม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ต้องใช้เงินรัฐสักบาท เพราะตนสามารถให้เอกชนลงทุน วันนี้รัฐเป็นหนี้เยอะ เราเข้ามาหนี้ก็บานตะไทแล้ว วันนี้จะขยับอะไรทีก็เป็นหนี้ไปหมดเราต้องสร้างหนี้ให้น้อยที่สุด และสร้างโอกาสให้คนไทยมากที่สุด พูดง่ายทำยากแต่ต้องทำ”

นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า ตนเป็นนักเรียนเตรียมทหารก่อนเข้าห้องเรียนต้องปฏิญาณตน หนึ่งในนั้นคือ “ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้” และ “ตายเสียกว่าที่จะอยู่อย่างผู้แพ้” ดังนั้นสิ่งที่ตนพูด นายกพูด ทำแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนที่เป็นพรรคไทยรักไทย เพราะพรรคมีขนาดเล็กลง มีรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงน้อยลง บางทีรัฐมนตรีกระทรวงข้างเคียงบางทีก็ทำงานด้วยกันไม่คล่องตัว พยายามทั้งนวดทั้งบีบให้ช่วยกัน

“ทำงานเถอะพ่อมหาจำเริญ ช่วยกันหน่อยเถอะ ถ้าพ่อมหาจำเริญไม่ทำ ตัวใครตัวมันนะครับ วันนี้ถือว่าบ้านเมืองคือหัวใจที่เราจะต้องทำให้ผ่านไปให้ได้ ”

นายทักษิณยังกล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ที่อาจทำให้พรรคประชาชนเข้าใจผิดว่า ตนอาจจะพูดสั้นไปทำให้พรรคประชาชนมองว่าตนเห็นดีเห็นงามกับการยุบพรรค

“ผมเป็นคนเกลียดเรื่องระบบยุบพรรคที่สุด เพราะโดนมาเยอะแล้ว และผมก็ไม่อยากเห็นพรรคประชาชนหรือพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ไม่อยากเห็นเลย แต่เราต้องแคร์ ผมโดนยุบตนก็เคารพกติกา ที่ผมพูดวันนั้นว่าเดี๋ยวจะหายไปอีกพรรคนั่นคือหายไปจากความทรงจำของประชาชน การหายไปจากความทรงจำของประชาชนเป็นการลงโทษที่ร้ายแรงที่สุด เพราะการเมืองจะตั้งอีก 10 พรรคก็ได้ ถ้ายังไม่หายจากความทรงจำของประชาชน ถ้าหายไปแล้วตั้งยังไงก็ไม่ได้ เราอยากเห็นพรรคการเมืองดีๆอยู่กับประชาชน ไม่อยากเห็นพรรคการเมืองดีๆไปใช้วิธีการของพรรคการเมืองบางพรรคเก่าๆแค่นั้น นั่นคือสิ่งที่ผมพูดวันนั้น ไม่ได้หมายความว่าไปเห็นดีเห็นงาม ขออธิบายจะได้เข้าใจถูก“

นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า ตนเป็นคนมองโลกในแง่ดี พร้อมให้โอกาส พี่น้องคนเสื้อแดงก็เห็นว่าตนมีขาประจำ บางคนเป็นขาเดียวกันย้ายไปอยู่ขาประจำก็มี เพราะฉะนั้นตนไม่ได้หวั่นไหว แทนที่จะเป็นขาประจำตนไม่อยากเห็นเขาเครียดเพราะด่าตนแทบตายตนก็ไม่เครียด ตนเป็นห่วงเดี๋ยวเส้นโลหิตในสมองแตกขึ้นมา อย่าไปโกรธเลย มานั่งคุยกับตนกินไวน์กับตน แล้วมีอะไรคับแค้นหัวใจมาคุยกัน ก่อนบอกว่าตนก็ลืมถามพ่อ พ่อเสียไป แล้วลืมถาม

“ปู่ผมมีอะไรกับปู่เขาหรือไม่ มันถึงไม่เลิกเห่าหอนเสียที ที่ผมพูดคืออยากเห็นบ้านเมืองสามัคคี ไม่อยากเห็นเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง ด่ากันไปด่ากันมาไร้สาระ ผมปล่อยวางหมดแล้ว”

อยากให้พี่น้องคนเสื้อแดงทั้งหลายกลับบ้านไปบอกพรรคพวก ว่าเรื่องปัญหาประเทศตนรับไว้และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กระบวนการการแก้ปัญหาต้องใช้เวลาและยากกว่าเดิม เพราะทหารวางระบบไว้เลอะพอสมควร ฟื้นยากหน่อยแต่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง
เราต้องสู้ ต้องทำให้ได้

นายทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า อยู่ๆการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็อภิปรายนายกฯคนเดียว ก็ดีเหมือนกัน แต่อภิปราย ส.ท.ร. ทีแรกจะใช้ชื่อทักษิณผิดกติกา พอตนไปพูดตำแหน่งตนคือส.ท.ร. ก็เลยเอาตรงนี้ไป เข้าใจว่าจะใช้แบบนี้ แต่ในสายตาคนที่รักตน ส.ท.ร.ไม่ได้แปลว่าเสือกทุกเรื่อง แปลว่า “สุดที่รัก” ขอให้คิดว่าเป็นสุดที่รักเยอะหน่อยก็แล้วกัน ตนอยากทำงานให้ประชาชนเลยขอเสือกทุกเรื่อง แต่ว่าเสือกแล้วทำงานได้ดี ก็ขอให้เป็นที่รักของประชาชนก็แล้วกัน

นายทักษิณ กล่าวว่า พี่น้องมากันหลายจังหวัดอิ่มหรือไม่ กลัวเลี้ยงไม่พอ ซึ่งตนผูกพันกับประชาชนไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปีก็คิดถึงเรื่องของประชาชน และประเทศ อย่างที่เล่าให้ฟังตนเป็นคนกตัญญูพอประชาชนไม่ลืมเราก็คิดว่าประชาชนลำบากจะช่วยอย่างไร และผมจะไปพบปะพี่น้องและจะใช้เวลามากขึ้นเพื่อให้รู้จริงถึงปัญหา ปัญหาถ้ารู้ไม่จริงก็แก้ไม่ถูก ถ้ารู้จริงปัญหาก็จะแก้ได้ วันนี้ตนต้องการเห็นข้าราชการทุกกระทรวง คนไทยทุกหมู่เหล่ายึดผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลักในการแก้ปัญหา เพราะฉะนั้นตนว่าบ้านเมืองไปได้ บ้านเมืองของเรามีศักยภาพแต่เราขาดความสามัคคีนานไปหน่อย

“ใครเป็นพวกผมก็ลำบากหน่อยที่ผ่านมา พวกผมที่ยอมลำบากและไม่ทิ้งผมก็ยังมีจำนวนมาก เพราะฉะนั้นวันนี้ผมพร้อมที่จะเอาโอกาสดีๆให้คนไทยกลับขึ้นมา ขอเวลานิดหนึ่ง ผมขอเวลาอีกไม่นาน ไม่ต้องรอถึง 9 ปี จำได้ไหมขอเวลาอีกไม่นาน ไม่ต้องถึง 9 ปีแน่นอน อย่างมากอีกสมัยเดียวเพื่อไทยแก้ปัญหาได้หมด แต่ถ้าอีก 2 ปีที่เหลือรับรองว่าเบาบางแน่นอน” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า บางวันตนทำงาน 08.30 น.-22.00 น. แต่ตื่น 05.00 น.ตื่นมาออกกำลังกายก่อนเดี๋ยวไม่แข็งแรง ตื่นมาออกกำลังกาย 08.30 น.ก็นับแล้ว 22.00 น. กลับบ้าน แต่รายวันจะเป็นอย่างนี้ต่ออาทิตย์ เพราะว่าอยากเห็นการแก้ปัญหารวดเร็วกว่านี้ มันช้าไปหน่อย สมัยตนมันง่ายเพราะนั่งหัวโต๊ะ นั่งไร้บี้ วันนี้เงินยังอยู่ในกระทรวงต่างๆอีกเยอะใช้ช้า ตนใช้คำว่าพ่อมหาจำเริญนั่งทับเงินทับทองจำนวนมาก รีบใช้หน่อยเถอะ เงินจะได้ถึงมือประชาชนโดยเร็ว เป็นเรื่องที่เราพูดเล่นกันในการบริหารเพื่อเร่งระบายเงินเข้าสู่การพัฒนาโดยเร็วจัดซื้อจัดจ้างเร็วๆ ประเทศจะได้เดินหน้า ทำไมต้องใช้ทั้งไม้นุ่มและไม้แข็ง พูดไปพรรคประชาชนก็ชอบว่า ว่าพูดแล้วทำไม่ได้ พูดแล้วไม่ตรงปก ขอให้ไปจดไว้เลย “ทำได้ทุกเรื่องแต่เวลามันยืดเนื่องจากเหตุการณ์มันเปลี่ยนไป อย่างเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตอีกไม่นานพวกคุณจะเข้าใจมากกว่านี้ เพราะตอนนั้นที่พูดกันว่าจะไม่กู้เพราะเราไปเข้าใจว่าไม่มีใครเข้ามายุ่งกับการบริหาร เราก็จะออกเหรียญและให้ประชาชนใช้พร้อมกันทีเดียว แล้วเหรียญก็จะวนในระบบ แล้วรัฐบาลค่อยๆตั้งงบประมาณชดเชย และขณะเดียวกันเศรษฐกิจก็จะดีเก็บ Vat ก็ได้มันก็จะใช้หนี้ตัวมันเองแต่ปรากฏว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงค์ชาติ)มาถึงเป่านกหวีดบอกไม่ได้ต้องมีเงิน ต้องตั้งงบประมาณ ผลสุดท้ายคือผิดแผนแต่เราพยายามปรับปรุงแก้ไขจนได้ แล้ว ต่อไปเทคโนโลยีดิจิทัลวอลเล็ตพี่น้องจะจำเหมือน 30 บาทรักษาทุกโรค จะเป็นกระเป๋าตังค์ของท่าน ท่านจะถูกเติมเงินในกระเป๋านี้โดยวิธีการต่างๆเพราะฉะนั้นกระเป๋าดิจิทัลนี้จะเป็นอะไรที่อยู่กับท่านตลอดชีวิต แล้วท่านจะรู้ว่าโอ้ เป็นความปรารถนาดีของพรรคเพื่อไทยจริงๆ แต่วันนี้คนยังมองไม่เห็นเราก็ปล่อยให้มองไม่ออกต่อไป เราก็กำลังทำอะไรที่เป็นเรื่องสมัยใหม่และก้าวหน้า เพราะทำแบบโบราณมันเอาไม่อยู่จริงๆ พี่น้องเชื่อหรือไม่ว่าถ้าเปรียบเทียบเศรษฐกิจเหมือนบ้านเป็นฐานรากมันพัง คานคอดินทรุด มันซ่อมยากกว่าซ่อมหลังคา ตอนปีต้มยำกุ้งเป็นปีที่หลังคาพัง ซ่อมง่ายซ่อมเร็ว วันนี้ซ่อมยากขึ้นแต่ก็ต้องซ่อมเพราะเราไม่สามารถสร้างบ้านหลังใหม่ได้ต้องเอาหลังนี้ซ่อมจนได้ บังเอิญว่าเทคโนโลยีใหม่ๆมันเกิดขึ้นแทนที่จะไปขุดใหม่ก็สามารถเสริมได้ทำนองนี้ คือเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้การซ่อมแซมเศรษฐกิจประเทศไทยได้เร็วขึ้น

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า “พี่น้องครับเทคโนโลยีมันมาแน่นอน และผมติดตามมาตลอดเพื่อเอามาเป็นประโยชน์ให้กับประเทศไทย อีกหน่อยทุกคน ลูกหลานใช้ AI เป็นหมด ถ้ามองว่าเทคโนโลยีมาช่วยเราชีวิตจะง่ายขึ้น แต่เมื่อมองว่ามันยากเหลือเกินทำให้ชีวิตเราลำบากเราก็ยังโง่ต่อไปต้องหยุดโง่ ไม่มีอะไรยาก ผมอยู่ผมจะทำผมจะช่วยคนไทยทั้งหมด” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ ยืนยันว่า กลับมาไม่เสียข้าวสุกแน่ อันนี้เราถือว่าเราพูดกันเหมือนพูดกับคนในบ้าน เราพูดกันได้ทุกเรื่องมันจะหลุดออกไปก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมต้องการให้เน้นว่าผมพูดกับคนในบ้านผมนะ เพราะฉะนั้นผิดนิดผิดหน่อยก็ขออภัยด้วย ขอบคุณมากดีใจที่ได้มาเจอกันก็ขอให้เดินทางกลับบ้านด้วยความสวัสดิภาพ และเราจะเจอกันอีกเรื่อยๆไม่หายไปไหนแต่ก็วนเวียนหมุนไปหมุนมา-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ สั่งการจากโมนาโก มอบ “อนุทิน” ช่วยเหลือน้ำท่วมแม่สาย

กทม. 24 พ.ค.-นายกฯ สั่งการจากโมนาโก เหตุมวลน้ำทะลักจากเมียนมาลงสู่แม่น้ำสาย มอบ “อนุทิน” รองนายกฯ เข้าช่วยเหลือตามข้อสั่งการด่วน พร้อมให้ สธ. ลงพื้นที่แก้ปัญหาแม่น้ำสายปนเปื้อนสารหนู ลดความกังวล และตรวจสุขภาพประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมแม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นน้ำที่ทะลักจากเมียนมาลงสู่แม่สายบริเวณใกล้วัดพรหมวิหารอย่างใกล้ชิด แม้ยังอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจต่างประเทศในการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักร และราชรัฐโมนาโก ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รายงานนายกรัฐมนตรีในฐานะ ประธานคณะกรรมการบรรเทาสาธารณภัย ว่าได้สั่งการให้เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีโดยด่วน และให้กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจ ลดความกลัวในเรื่องน้ำที่มีสารปนเปื้อน และให้ตรวจเช็คสุขภาพ ร่างกายพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป ขณะที่นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย กล่าวว่ามวลน้ำที่มีมากทำให้ล้นบิ๊กแบ็กขึ้นมา ส่งผลให้เข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ ช่วงน้ำท่วมยังมีวัชพืชและขอนไม้ไหลมาติดสะพานอีก ทำให้ต้องเร่งนำเอาวัชพืชและขอนไม้ออกเพื่อให้น้ำไหลระบายได้สะดวก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ระดมบิ๊กแบ็คเพิ่มเติมเพื่อนำไปป้องกันบริเวณริมฝั่งชุมชนเกาะทรายและไม้ลุงขนต่อไป ทั้งนี้ ภายหลังน้ำลดจะมีการลงพื้นที่ เพื่อเร่งเจรจากับชาวบ้านที่ยังคงเหลืออาศัยอยู่ริมฝั่งอีก 8-9 ราย ให้ย้ายออกและทำการรื้อถอน […]

เร่งเคลียร์พื้นที่รถน้ำมันพลิกคว่ำ ถ.สุขสวัสดิ์

กทม. 24 พ.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. เผยอุบัติเหตุรถน้ำมันพลิกคว่ำ ถ.สุขสวัสดิ์ เร่งเคลียร์คราบน้ำมัน ป้องกันไหลไปบริเวณอื่น ส่วนรถที่พลิกคว่ำ ยกขึ้นได้แล้ว นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงอุบัติเหตุเมื่อคืนเวลาประมาณ 00.24 น. มีรถน้ำมันพลิกคว่ำบริเวณถนนสุขสวัสดิ์ 24 เขตราษฎร์บูรณะ ทำให้มีน้ำมันเปรอะพื้นผิวจราจร ซึ่งเป็นน้ำมันเบนซินที่มีความไวไฟ กทม. จึงได้ใช้วิธีใช้กระสอบทราย ล้อมจุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันน้ำมันไม่ให้ไหลไปบริเวณอื่น รวมถึงบล็อกท่อระบายน้ำบริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันน้ำมันไหลลงสู่ท่อระบายน้ำไปปนเปื้อนกับน้ำในท่อ โดยล่าสุดสามารถกู้รถให้ตั้งขึ้นได้แล้ว พร้อมถ่ายน้ำมันเบนซินของรถที่พลิกคว่ำไปสู่รถอีกคันที่มารองรับแล้ว อีกทั้งบริษัทผู้รับผิดชอบจะนำรถมาดูดน้ำมันที่อยู่บนพื้นและท่อระบายน้ำที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมออกไปจากท่อด้วยเพื่อนำน้ำไปบำบัด รวมถึงเมื่อเช้าได้มีการอพยพผู้คนบริเวณใกล้เคียงไปประมาณ 100 คน เพื่อความปลอดภัย ซึ่งสถานการณ์ในภาพรวมเชื่อว่าไม่มีสิ่งใดที่ต้องกังวล ทุกอย่างอยู่ในการควบคุม และบ่ายนี้จะคลี่คลาย.-417-สำนักข่าวไทย

น้ำสายทะลักท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เชียงราย 24 พ.ค.-ฝนตกหนักเกือบทั้งคืน แม่น้ำสายทะลักท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลางดึก บางจุดสูงถึง 1 เมตร ส่วนบริเวณใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 น้ำล้นบิ๊กแบ็กทะลักท่วมชุมชนริมน้ำเช่นกัน ฝนตกหนักเกือบทั้งคืน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้น จนล้นพนังกั้นน้ำเข้าท่วมหลายชุมชน เช่น บ้านถ้ำผาจม ตลาดสายลมจอย ตลาดน้อยเหมืองแดง ชุมชนเหมืองแดง ชุมชนไม้ลุงขน ชุมชนเกาะทราย โดยน้ำจากแม่น้ำสายได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนเป็นวงกว้าง บางจุดสูง 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร น้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนกลางดึกแบบไม่ทันตั้งตัว หลายหลังเข้าท่วมภายในบ้าน จนต้องตื่นมาขนของมีค่าหนีน้ำกลางดึก ขณะที่บริเวณใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้นจนล้นพนังกั้นน้ำจากกระสอบทรายบิ๊กแบ็กบนถนนลอดใต้สะพาน ทะลักไหลเข้าพื้นที่ชั้นในขยายเป็นวงกว้างออกไปหลายชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำสาย และเป็นพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมอย่างหนักเมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดระดับน้ำยังคงท่วมสูง และมีแนวโน้มว่าน้ำจะยังคงสูงขึ้นได้อีก เนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำในประเทศเมียนมาฝนยังตกหนัก.-สำนักข่าวไทย