“ทักษิณ” ลั่น​หนุนรัฐบาลทำงานต่อ​ บอกกลับมาแล้วไม่เสียข้าวสุก

พิษณุโลก 17 มี.ค.- “ทักษิณ” ลั่น​ เดินหน้าหนุนรัฐบาลทำงานต่อ​ ให้สัญญาคนเสื้อแดง กลับมาแล้วไม่เสียข้าวสุก โต้กลับ “พรรคประชาชน” ย้ำเกลียดที่สุด​คือยุบพรรค เพราะเคยโดนมาก่อน​ ย้อนถามขาประจำ ปู่เคยมีเรื่องกันหรือถึงตามเห่าหอนไม่เลิก ออกตัวผลงานรัฐเกิดช้า เหตุเป็นพรรคร่วม วอน “พ่อมหาจำเริญ” ช่วยกันทำงานหน่อย ขู่ถ้าไม่ทำก็ตัวใครตัวมัน


นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีพบปะมวลชนเสื้อแดงในงานเรื่องเล่า “ประสบการณ์ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของมวลชน” ที่หอประชุมอนุสรณ์ 100 ปี มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก

โดย นายทักษิณ บอกว่า ตนติดหนี้ไว้นาน ตอนนั้นบอกว่าจะมีการจัดสังสรรค์ก่อนเลือกตั้งแต่กลัวว่าเป็นประเด็นจึงขอติดหนี้ไว้ก่อนพอตนกลับมาก็ถูกทวงแล้วทวงอีกว่าประชาชนอยากเจอ ในที่สุดก็ลงตัวว่าจะมาวันนี้ 17 ปีที่รอคอยก็ตรงกับวันที่ 17 พอดีที่เดินทางมาหากัน


นายทักษิณ กล่าวอีกว่าต้องขอคารวะหัวใจทุกคน ที่เด็ดเดี่ยวต่อสู้เพื่ออยากเห็นความเป็นธรรมในบ้านเมือง ที่สำคัญคือไม่เคยลืมตน ซึ่งตนจากไปนานเกินไป หากประชาชนลืมตนก็คงไม่สามารถน้อยใจได้ แต่นี่ไม่ลืมเลย เมื่อกลับมาก็อยากเจอตนอีก ตนก็ต้องมา เพราะตนเป็นคนที่รู้จักสำนึกในบุญคุณของคน ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร บุญคุณของทุกๆคนคือไม่เคยทิ้งตน 17 ปีไม่เคยทิ้งกัน เลือกตั้งทุกครั้งก็ไปเลือก ไปเชียร์ ไปช่วยหาเสียง แม้ครั้งที่ผ่านมาเราจะเสียหายไปเยอะ อาจเกิดจากความประมาทหรือเกิดจากการที่กระแสพลิกในตอนท้าย แต่เชื่อว่าในครั้งต่อไปพรรคเพื่อไทยคงจะแข็งแรงมากกว่านี้เยอะ โดยมีทุกคนคอยเป็นกำลังใจคอยสนับสนุน

วันนี้ที่ตนมา นอกจากมาขอบคุณในน้ำใจที่ไม่เคยลืมกัน ยังอยากมาบอกว่าวันนี้เราไม่ต้องไปต่อสู้อะไรแล้วในเรื่องของการเมือง การเมืองวันนี้ตนอยากเห็นทุกฝ่ายมองประเทศไทยเป็นหนึ่ง เพราะลำพังเราสามัคคีกันอย่างไรก็ยังสู้เขายาก แต่ถ้าการแตกแยกเกิดขึ้นในบ้านเมือง เราก็ยิ่งสู้เขายาก เพราะการแข่งขันในโลกใหม่มันรุนแรง แข่งขันกันด้วยพลังเงิน ด้วยเทคโนโลยี วันนี้เราจะต้องแข็งแรงมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นิสัยเก่าๆที่ชอบอิจฉาริษยา ทำงานเป็นทีมไม่ได้ คนไทยต้องเบาลง ไม่อย่างนั้นประเทศเราจะไม่แข็งแรง

ตนอยากบอกพี่น้องเสื้อแดงทุกคน ว่าตนจะถูกใส่ร้ายป้ายสีในอดีตอย่างไรก็แล้วแต่ วันนี้ตนให้อภัย เพราะตนถือว่าตนคือผูรักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรม อยากเห็นคนไทยทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีความเป็นธรรม


นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า ตนกลับได้เพราะพระเมตตา ดังนั้นจะต้องกลับมาทำงานให้กับบ้านเมือง ทำให้เป็นยุคศิวิไลซ์ การเมืองเข้มแข็ง แข็งแกร่ง และบริหารประเทศด้วยปัญญา ด้วยความถูกต้อง แล้วบ้านเมืองเราจะไปด้วยดี ลูกหลานเราก็จะสบาย

วันนี้หลายคนยังมองว่าอนาคตลูกหลานจะเป็นอย่างไร แม้กระทั่งคนมีฐานะอย่างวิตกว่าลูกหลานจะอยู่กับสังคมยุคใหม่อย่างไร คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักว่าภัยคุกคามทางการพัฒนามันแรงมาก เราจะต้องรีบปรับตัว โดยเฉพาะคนที่อยู่ในกระแสข่าว เพราะฟังดูแล้วก็ยังห่างไกลจากความเข้าใจโลกที่เปลี่ยนไป วันนี้เรายังจมอยู่กับเรื่องของการเกษตร การทำงานเป็นลูกจ้าง แต่ในอนาคตประเทศไทยจะเป็นลักษณะของธนาคารหน่วยกิต ไม่ใช่ประเภทจ่ายครบจบแน่ แต่เป็นการเรียนครบแล้วค่อยจบ วันนี้เราจะทำให้คนไทยเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ไม่มีอะไรยาก เพียงแต่ประชาชนต้องการการนำที่ถูกต้อง

ปีนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะต้องสร้างโอกาสให้ ต้องแก้ปัญหาที่หมักหมมมานานให้ได้ ตนก็เลยให้คำแนะนำไปหลายเรื่อง ขอให้สังเกตดูว่าตนพยายามไปรู้จริงกับปัญหาหลาย แม้แต่การลงพื้นที่ภาคใต้ที่มีการสู้กันมาก่อความไม่สงบมาเป็นเวลา 20 ปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของอุดมการณ์ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความเข้าใจ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย สนุกสนานกับผลประโยชน์ที่ได้รับ สิ่งเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขแน่นอน

นายทักษิณ ยังเปิดเผยด้วยว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตนคิดกับนายกฯ อิ๊งค์ ดังๆว่าทำอย่างไรจะให้หนี้สินคนไทยหมด เพราะวันนี้หนี้ครัวเรือนเยอะเหลือเกิน

“เราจึงคิดกันว่าจะซื้อหนี้ทั้งหมด ซื้อหนี้ของประชาชนออกจากระบบธนาคารดีหรือไม่ แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อน ไม่ต้องชำระเต็มจำนวน แล้วให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ยกจากเครดิตบูโรให้หมด ให้เป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่องทำมาหากินใหม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ต้องใช้เงินรัฐสักบาท เพราะตนสามารถให้เอกชนลงทุน วันนี้รัฐเป็นหนี้เยอะ เราเข้ามาหนี้ก็บานตะไทแล้ว วันนี้จะขยับอะไรทีก็เป็นหนี้ไปหมดเราต้องสร้างหนี้ให้น้อยที่สุด และสร้างโอกาสให้คนไทยมากที่สุด พูดง่ายทำยากแต่ต้องทำ”

นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า ตนเป็นนักเรียนเตรียมทหารก่อนเข้าห้องเรียนต้องปฏิญาณตน หนึ่งในนั้นคือ “ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้” และ “ตายเสียกว่าที่จะอยู่อย่างผู้แพ้” ดังนั้นสิ่งที่ตนพูด นายกพูด ทำแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนที่เป็นพรรคไทยรักไทย เพราะพรรคมีขนาดเล็กลง มีรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงน้อยลง บางทีรัฐมนตรีกระทรวงข้างเคียงบางทีก็ทำงานด้วยกันไม่คล่องตัว พยายามทั้งนวดทั้งบีบให้ช่วยกัน

“ทำงานเถอะพ่อมหาจำเริญ ช่วยกันหน่อยเถอะ ถ้าพ่อมหาจำเริญไม่ทำ ตัวใครตัวมันนะครับ วันนี้ถือว่าบ้านเมืองคือหัวใจที่เราจะต้องทำให้ผ่านไปให้ได้ ”

นายทักษิณยังกล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ที่อาจทำให้พรรคประชาชนเข้าใจผิดว่า ตนอาจจะพูดสั้นไปทำให้พรรคประชาชนมองว่าตนเห็นดีเห็นงามกับการยุบพรรค

“ผมเป็นคนเกลียดเรื่องระบบยุบพรรคที่สุด เพราะโดนมาเยอะแล้ว และผมก็ไม่อยากเห็นพรรคประชาชนหรือพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ไม่อยากเห็นเลย แต่เราต้องแคร์ ผมโดนยุบตนก็เคารพกติกา ที่ผมพูดวันนั้นว่าเดี๋ยวจะหายไปอีกพรรคนั่นคือหายไปจากความทรงจำของประชาชน การหายไปจากความทรงจำของประชาชนเป็นการลงโทษที่ร้ายแรงที่สุด เพราะการเมืองจะตั้งอีก 10 พรรคก็ได้ ถ้ายังไม่หายจากความทรงจำของประชาชน ถ้าหายไปแล้วตั้งยังไงก็ไม่ได้ เราอยากเห็นพรรคการเมืองดีๆอยู่กับประชาชน ไม่อยากเห็นพรรคการเมืองดีๆไปใช้วิธีการของพรรคการเมืองบางพรรคเก่าๆแค่นั้น นั่นคือสิ่งที่ผมพูดวันนั้น ไม่ได้หมายความว่าไปเห็นดีเห็นงาม ขออธิบายจะได้เข้าใจถูก“

นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า ตนเป็นคนมองโลกในแง่ดี พร้อมให้โอกาส พี่น้องคนเสื้อแดงก็เห็นว่าตนมีขาประจำ บางคนเป็นขาเดียวกันย้ายไปอยู่ขาประจำก็มี เพราะฉะนั้นตนไม่ได้หวั่นไหว แทนที่จะเป็นขาประจำตนไม่อยากเห็นเขาเครียดเพราะด่าตนแทบตายตนก็ไม่เครียด ตนเป็นห่วงเดี๋ยวเส้นโลหิตในสมองแตกขึ้นมา อย่าไปโกรธเลย มานั่งคุยกับตนกินไวน์กับตน แล้วมีอะไรคับแค้นหัวใจมาคุยกัน ก่อนบอกว่าตนก็ลืมถามพ่อ พ่อเสียไป แล้วลืมถาม

“ปู่ผมมีอะไรกับปู่เขาหรือไม่ มันถึงไม่เลิกเห่าหอนเสียที ที่ผมพูดคืออยากเห็นบ้านเมืองสามัคคี ไม่อยากเห็นเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง ด่ากันไปด่ากันมาไร้สาระ ผมปล่อยวางหมดแล้ว”

อยากให้พี่น้องคนเสื้อแดงทั้งหลายกลับบ้านไปบอกพรรคพวก ว่าเรื่องปัญหาประเทศตนรับไว้และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กระบวนการการแก้ปัญหาต้องใช้เวลาและยากกว่าเดิม เพราะทหารวางระบบไว้เลอะพอสมควร ฟื้นยากหน่อยแต่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง
เราต้องสู้ ต้องทำให้ได้

นายทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า อยู่ๆการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็อภิปรายนายกฯคนเดียว ก็ดีเหมือนกัน แต่อภิปราย ส.ท.ร. ทีแรกจะใช้ชื่อทักษิณผิดกติกา พอตนไปพูดตำแหน่งตนคือส.ท.ร. ก็เลยเอาตรงนี้ไป เข้าใจว่าจะใช้แบบนี้ แต่ในสายตาคนที่รักตน ส.ท.ร.ไม่ได้แปลว่าเสือกทุกเรื่อง แปลว่า “สุดที่รัก” ขอให้คิดว่าเป็นสุดที่รักเยอะหน่อยก็แล้วกัน ตนอยากทำงานให้ประชาชนเลยขอเสือกทุกเรื่อง แต่ว่าเสือกแล้วทำงานได้ดี ก็ขอให้เป็นที่รักของประชาชนก็แล้วกัน

นายทักษิณ กล่าวว่า พี่น้องมากันหลายจังหวัดอิ่มหรือไม่ กลัวเลี้ยงไม่พอ ซึ่งตนผูกพันกับประชาชนไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปีก็คิดถึงเรื่องของประชาชน และประเทศ อย่างที่เล่าให้ฟังตนเป็นคนกตัญญูพอประชาชนไม่ลืมเราก็คิดว่าประชาชนลำบากจะช่วยอย่างไร และผมจะไปพบปะพี่น้องและจะใช้เวลามากขึ้นเพื่อให้รู้จริงถึงปัญหา ปัญหาถ้ารู้ไม่จริงก็แก้ไม่ถูก ถ้ารู้จริงปัญหาก็จะแก้ได้ วันนี้ตนต้องการเห็นข้าราชการทุกกระทรวง คนไทยทุกหมู่เหล่ายึดผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลักในการแก้ปัญหา เพราะฉะนั้นตนว่าบ้านเมืองไปได้ บ้านเมืองของเรามีศักยภาพแต่เราขาดความสามัคคีนานไปหน่อย

“ใครเป็นพวกผมก็ลำบากหน่อยที่ผ่านมา พวกผมที่ยอมลำบากและไม่ทิ้งผมก็ยังมีจำนวนมาก เพราะฉะนั้นวันนี้ผมพร้อมที่จะเอาโอกาสดีๆให้คนไทยกลับขึ้นมา ขอเวลานิดหนึ่ง ผมขอเวลาอีกไม่นาน ไม่ต้องรอถึง 9 ปี จำได้ไหมขอเวลาอีกไม่นาน ไม่ต้องถึง 9 ปีแน่นอน อย่างมากอีกสมัยเดียวเพื่อไทยแก้ปัญหาได้หมด แต่ถ้าอีก 2 ปีที่เหลือรับรองว่าเบาบางแน่นอน” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า บางวันตนทำงาน 08.30 น.-22.00 น. แต่ตื่น 05.00 น.ตื่นมาออกกำลังกายก่อนเดี๋ยวไม่แข็งแรง ตื่นมาออกกำลังกาย 08.30 น.ก็นับแล้ว 22.00 น. กลับบ้าน แต่รายวันจะเป็นอย่างนี้ต่ออาทิตย์ เพราะว่าอยากเห็นการแก้ปัญหารวดเร็วกว่านี้ มันช้าไปหน่อย สมัยตนมันง่ายเพราะนั่งหัวโต๊ะ นั่งไร้บี้ วันนี้เงินยังอยู่ในกระทรวงต่างๆอีกเยอะใช้ช้า ตนใช้คำว่าพ่อมหาจำเริญนั่งทับเงินทับทองจำนวนมาก รีบใช้หน่อยเถอะ เงินจะได้ถึงมือประชาชนโดยเร็ว เป็นเรื่องที่เราพูดเล่นกันในการบริหารเพื่อเร่งระบายเงินเข้าสู่การพัฒนาโดยเร็วจัดซื้อจัดจ้างเร็วๆ ประเทศจะได้เดินหน้า ทำไมต้องใช้ทั้งไม้นุ่มและไม้แข็ง พูดไปพรรคประชาชนก็ชอบว่า ว่าพูดแล้วทำไม่ได้ พูดแล้วไม่ตรงปก ขอให้ไปจดไว้เลย “ทำได้ทุกเรื่องแต่เวลามันยืดเนื่องจากเหตุการณ์มันเปลี่ยนไป อย่างเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตอีกไม่นานพวกคุณจะเข้าใจมากกว่านี้ เพราะตอนนั้นที่พูดกันว่าจะไม่กู้เพราะเราไปเข้าใจว่าไม่มีใครเข้ามายุ่งกับการบริหาร เราก็จะออกเหรียญและให้ประชาชนใช้พร้อมกันทีเดียว แล้วเหรียญก็จะวนในระบบ แล้วรัฐบาลค่อยๆตั้งงบประมาณชดเชย และขณะเดียวกันเศรษฐกิจก็จะดีเก็บ Vat ก็ได้มันก็จะใช้หนี้ตัวมันเองแต่ปรากฏว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงค์ชาติ)มาถึงเป่านกหวีดบอกไม่ได้ต้องมีเงิน ต้องตั้งงบประมาณ ผลสุดท้ายคือผิดแผนแต่เราพยายามปรับปรุงแก้ไขจนได้ แล้ว ต่อไปเทคโนโลยีดิจิทัลวอลเล็ตพี่น้องจะจำเหมือน 30 บาทรักษาทุกโรค จะเป็นกระเป๋าตังค์ของท่าน ท่านจะถูกเติมเงินในกระเป๋านี้โดยวิธีการต่างๆเพราะฉะนั้นกระเป๋าดิจิทัลนี้จะเป็นอะไรที่อยู่กับท่านตลอดชีวิต แล้วท่านจะรู้ว่าโอ้ เป็นความปรารถนาดีของพรรคเพื่อไทยจริงๆ แต่วันนี้คนยังมองไม่เห็นเราก็ปล่อยให้มองไม่ออกต่อไป เราก็กำลังทำอะไรที่เป็นเรื่องสมัยใหม่และก้าวหน้า เพราะทำแบบโบราณมันเอาไม่อยู่จริงๆ พี่น้องเชื่อหรือไม่ว่าถ้าเปรียบเทียบเศรษฐกิจเหมือนบ้านเป็นฐานรากมันพัง คานคอดินทรุด มันซ่อมยากกว่าซ่อมหลังคา ตอนปีต้มยำกุ้งเป็นปีที่หลังคาพัง ซ่อมง่ายซ่อมเร็ว วันนี้ซ่อมยากขึ้นแต่ก็ต้องซ่อมเพราะเราไม่สามารถสร้างบ้านหลังใหม่ได้ต้องเอาหลังนี้ซ่อมจนได้ บังเอิญว่าเทคโนโลยีใหม่ๆมันเกิดขึ้นแทนที่จะไปขุดใหม่ก็สามารถเสริมได้ทำนองนี้ คือเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้การซ่อมแซมเศรษฐกิจประเทศไทยได้เร็วขึ้น

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า “พี่น้องครับเทคโนโลยีมันมาแน่นอน และผมติดตามมาตลอดเพื่อเอามาเป็นประโยชน์ให้กับประเทศไทย อีกหน่อยทุกคน ลูกหลานใช้ AI เป็นหมด ถ้ามองว่าเทคโนโลยีมาช่วยเราชีวิตจะง่ายขึ้น แต่เมื่อมองว่ามันยากเหลือเกินทำให้ชีวิตเราลำบากเราก็ยังโง่ต่อไปต้องหยุดโง่ ไม่มีอะไรยาก ผมอยู่ผมจะทำผมจะช่วยคนไทยทั้งหมด” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ ยืนยันว่า กลับมาไม่เสียข้าวสุกแน่ อันนี้เราถือว่าเราพูดกันเหมือนพูดกับคนในบ้าน เราพูดกันได้ทุกเรื่องมันจะหลุดออกไปก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมต้องการให้เน้นว่าผมพูดกับคนในบ้านผมนะ เพราะฉะนั้นผิดนิดผิดหน่อยก็ขออภัยด้วย ขอบคุณมากดีใจที่ได้มาเจอกันก็ขอให้เดินทางกลับบ้านด้วยความสวัสดิภาพ และเราจะเจอกันอีกเรื่อยๆไม่หายไปไหนแต่ก็วนเวียนหมุนไปหมุนมา-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย